“คุณนีรดาร์ รึเปล่าครับ”
ฉันหันไปตามเสียงเรียกขณะที่กำลังยืนหันหน้าหันหลังอยู่หน้าสนามบินเชียงใหม่ ผู้จัดการบอกว่าพอถึงที่สนามบินก็จะมีคนของบริษัทมารับ นี่คงเป็นคนของบริษัทสินะ
“ค่ะ ฉันนีรดาร์”
“อ๋อครับ ผมมาจากบริษัท Y ครับ มารับคุณไปส่งที่พักครับ” เขาพูดพลางเอื้อมมือมายกกระเป๋าเดินทางสองสามใบที่อยู่บนรถเข็นเพื่อขนขึ้นรถ
“ขอบคุณนะคะ คุณ...เออ”
“ผม...ที ครับ”
ฉันเอ่ยขอบคุณเขาตามมารยาทและก็ควรรู้ชื่อเขาด้วยเพราะเราอาจได้ทำงานร่วมกันในวันข้างหน้า เขาตอบฉันกลับมาแบบยิ้มๆ มือเล็กเอื้อมไปเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังคนขับ มีความรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญเลยแฮะ มีรถตู้มารับด้วย
หลังรถแล่นมาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็หยุดนิ่งอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ที่ดูภายนอกมันอาจจะเล็กไปหน่อยแต่ก็น่าอยู่ดีนะ สะอาดสะอ้าน น่าจะมีคนคอยดูแลแน่ๆ ดีเลย ฉันเป็นพวกไม่ชอบทำงานบ้านสักเท่าไร ก็ส่วนมากแม่จะทำให้นี่นา
“ถึงแล้วครับ” พี่คนขับที่ชื่อที..คนนั้นหันมาบอกฉัน แล้วหันกลับไปเปิดประตูลงจากรถเดินไปเปิดกระโปรงหลังเพื่อขนของลง ฉันจึงเปิดประตูลงมาจากรถ อากาศที่นี่ดีจัง ไม่ร้อนอบอ้าวหรืออาจเป็นเพราะยังเช้าอยู่ ฉันลงเครื่องมาตอนเจ็ดโมงพอดีเป๊ะเลยรีบมาทำไมก็ไม่รู้ อีกตั้งสองวันกว่าจะได้ไปทำงาน เขาคงเลือกจองไฟลต์ถูกให้เราละสิ...ชิ!
ระหว่างที่ฉันกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศอยู่นั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง
“มาถึงนานรึยังคะ มาๆ เข้ามานั่งคุยกันก่อนค่ะ”
ฉันหันมาตามเสียงนั่นและยิ้มตอบรับเป็นมารยาทฉัน ก่อนที่ผู้หญิงวัยประมาณห้าสิบกว่าคนนั้นก็พาฉันเข้ามาในบ้านหลังที่สามถัดมาจากหลังนั้น
“ไม่ใช่หลังนั้นเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเพราะอยากอยู่หลังนั่นพอเขาพามาที่นี่ฉันเลยเสียใจนิดๆ
“อ้อๆ หลังนั่นแหละค่ะ แต่มาดื่มน้ำดื่มท่าซะก่อน” ป้าที่เป็นเจ้าของบ้านพูดพร้อมยกน้ำมาให้ฉันกับพี่ที เราสามคนนั่งกันอยู่ในสวนหน้าบ้าน ป้าแกก็พูดถึงบ้าน ถึงคนที่นี่และวัฒนธรรมที่ฉันควรจะรู้ให้ฟัง สักพักพี่ทีก็ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องไปทำงานต่อ ฉันเองก็ต้องขอตัวเหมือนกัน เหนื่อยเหลือเกิน อยากนอน
“หนู ป้ามีเรื่องจะขอหนูน่ะ” ฉันกำลังจะลุกจากเก้าอี้แต่ป้าแกดันจับแขนฉันแล้วพูดขึ้นมาซะก่อน หน้าท่านตอนนี้บ่งบอกมากว่าฉันน่าจะมีปัญหาแล้วแหละ
“เรื่องอะไรเหรอคะ” ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะถามออกไป
“เออ...คือ บ้านหลังนั้นมีเด็กนักเรียนเช่าอยู่ด้วยคนหนึ่ง บ้านนั้นมีสองชั้น ป้าคุยกับเขาแล้วว่าจะให้หนูอยู่ชั้นบน” แค่เด็กนักเรียนแล้วทำไมแกต้องกังวลด้วยล่ะในเมื่ออยู่คนละชั้น ก็ไม่น่ามีปัญหาหนิ ดีซะอีกฉันจะได้มีเพื่อน เอ๊ะ....ผู้หญิงใช่มะ? เมื่อกี้ป้าบอกว่าผู้หญิงรึผู้ชายนะ
“ว่าแต่ผู้หญิงใช่ไหมคะ” ฉันถามออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ป้าแกกลับก้มหน้างุด นี่หมายความว่าไง ผู้ชายงั้นเหรอ เหอะๆ เวรกรรมอะไรเนี่ย ฉันไม่ชอบเด็กผู้ชายเป็นที่สุด ไม่ได้ๆ ฉันต้องไปอยู่ที่อื่น ฉันควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาเปิดเครื่องและลุกออกมาหน้าบ้านทิ้งให้ป้าแกนั่งทำหน้าสำนึกผิดอยู่นั่นแหละ หลอกลวงกันชัดๆ ฉันกดโทรศัพท์หาผู้จัดการทันที
ตื้ดดด....ตื้ด
[ครับ คุณถึงแล้วใช่ไหม]
"ค่ะ ถึงแล้ว เซอร์ไพรส์มาด้วย นี่ผู้จัดการรู้ไหมว่าบ้านที่คุณเตรียมให้ มีคนเช่าอยู่ก่อนแล้ว และให้ฉันไปแบ่งใช้กะเขา ฉันยอมไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด"
[เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ แต่ไม่มีบ้านหลังไหนแล้วนะที่ใกล้กับบริษัทเท่าที่นี่ ที่คุณสามารถเดินไปได้ หรือคุณจะยอมนั่งรถไปล่ะ แล้วอีกอย่างนะ เขาให้งบมาแค่นี้ แล้วก็จ่ายค่าเช่าทั้งปีไปแล้ว]
"ฮะ....แม่เจ้า สรุปคือ งบน้อยใช่ไหมคะ"
[หรือคุณจะยอมจ่ายเองก็ได้นะ เสียทั้งค่าเช่าบ้าน ค่ารถ คิดเอานะ ผมไปประชุมก่อน]
ติ๊ด.....
“เดี๋ยวซิ ผู้จัดการ คุยกะ”
ตัดสายใส่เฉย...แม่งเอ่ย!!!! เอาไงดีว่ะ เอาไงดี คิดซิ...คิด ยัยหนูดา คิด เว้ยยยย ไม่มีทางฉันไม่ยอมเสียตังค์เองหรอก แค่เด็กนักเรียนคงไม่เป็นไรมั้ง
“หนู แต่เขาไม่ชอบผู้หญิงหรอกนะ เขาน่ะชอบผู้ชาย” ป้าแกเดินออกมาหาฉันแล้วบอกสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด ฉันเลิกคิ้วใส่แก จริงเหรอ ถ้าเป็นงั้นก็ดีซิ มันทำให้ฉันยิ้มออกมาได้นิดหนึ่ง ฉันก็เลยคิดแผนดีๆ ออก ปิ้งงงง!!!
“งั้น ป้าต้องลดค่าเช่าให้หนู 20% ตกลงไหมคะ”
“โห่...ยัยหนูคนที่มาจ่ายตังค์ก็ขอลดไปตั้งเกือบครึ่งแหละ อย่าต่อเลยนะ ป้าเอาเงินไปรักษาลุงหมดแล้ว”
“ฮะ!!!! ต่อแล้ว หน้าเลือด ไอ้ผู้จัดการบ้า อย่าให้เจอนะ” ฉันได้ฟังอย่างงั้นก็เลยหวนนึกถึงพ่อตัวเอง ป้าแกก็คงเดือดร้อนจริงๆ นั่นแหละ อยู่ๆ ไปเหอะยัยหนูดาแค่อาศัยนอนเฉยๆ เอง ก็คงจะได้อยู่ที่ทำงานเยอะกว่านั่นแหละเนอะ เอาว่ะ คงไม่มีอะไรแย่ไปซะทุกอย่างหรอก อย่างน้อยเด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ผู้ชาย
“ก็ได้ค่ะ....แต่วันหยุดหนูขอมากินข้าวด้วยนะคะ” ฉันบอกกับป้าแบบทีเล่นทีจริง เพื่อไม่ให้ป้าแกเครียด และมันก็ได้ผล ยิ้มแฉ่งเลยทีนี้
“ได้เลยๆ มาทุกวันก็ได้ ป้าชื่อพิมนะ”
“หนูดา...ค่ะ”
“งั้นหนูดาขอตัวนะคะ” ฉันบอกพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่ ท่านคงรอฉันอยู่แน่ๆ เราคุยกันไปได้สักพักก็ต้องวางสายเพราะแม่จะไปดูแลพ่อต่อ ฉันยังไม่หายคิดถึงเลยงะ ฉันเลยเดินเข้าไปดูในบ้าน
แกร๊ก....แอ๊ดดดดด
“ว้าวววว...สะอาดมากเลย นี้เขาคงเป็นเกย์จริงๆ ซินะ”
ฉันเดินสำรวจรอบๆ บ้านและพบว่ามันสะอาดมากจนไม่น่าเชื่อว่านี้คือฝีมือของเด็กผู้ชาย บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่และไม่สูงมาก ไม่ใช่บ้านจัดสรร แต่เป็นบ้านที่ถูกเขียนแบบขึ้นมาเอง เปิดเข้ามาก็เจอห้องนั่งเล่นที่ไม่ใหญ่มาก ตรงเข้าไปก็เป็นห้องครัว ด้านซ้ายมือฉันมีห้องอยู่ห้องหนึ่งน่าจะเป็นของเด็กนั้น เลยประตูห้องนั้นมาหน่อยก็จะมีบันไดขึ้นไปชั้นบน
ส่วนหน้าห้องฉันเป็นระเบียงเหมือนกับอาคารที่มีชั้นครึ่งยังงั้นเลยสามารถมองลงมาข้างได้ เจ๋งอะ ฉันไม่คิดว่าบ้านหลังเล็กๆ ก็ทำแบบนี้ได้ ฉันเดินขึ้นมาชั้นบนซึ่งเป็นที่ของฉัน ป้าพิมบอกว่าเราแบ่งกันคนละชั้น กระเป๋าสามใบของฉันอยู่ที่ชั้นนี้เรียบร้อยแล้ว เอ๊ะ!!! พี่ทีรู้งั้นเหรอ หรือเดา แล้วรู้ได้ไง เหอะ...ช่างมันเถอะ
ครืดดดดด....ครืดดดดด
ระหว่างที่ฉันกำลังจัดของเข้าที่ มีโทรศัพท์เข้า ฉันจึงหยิบมันขึ้นมาดู และแน่นอนที่สุดเป็นอย่างที่คิดเพื่อนสามตัว เอ๊ย..สามคนของฉัน เพราะมันไม่ได้โทรมาคนเดียว แต่วิดีโอคอลเป็นกลุ่มมาหาฉัน
แมนนี่ : ไง ชะนี ไม่โทรหาเพื่อนเลยนะยะ
ลูกปลา : ช่าย มึงถึงยัง ปะ....
พริกแกง : นั่นดิ ผู้ละ...
ลูกปลา : นี่ กูยังพูดมะ....
แมนนี่ : โอ๊ยยยย...จะแย่งกันคะ....
@&฿~>&!/@~!¥€<|~&฿@ ระหว่างที่พวกมันเถียงกัน ฉันก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูบ้าน
ฉัน : พวกมึงแค่นี้ก่อนนะ
ฉันกดวางสายแล้วรีบออกมาจากห้องเพื่อจะลงไปข้างล่าง ฉันคิดว่าต้องเป็นเด็กคนนั้นแน่ๆ แต่....
แอ๊ดดดด....กรึก
นั่นไง...ไม่ทัน เด็กนั่นเข้าห้องและล็อกประตูทันที ใครล่ะ...จะกล้าเรียก ฉันจึงหันหลังเดินกลับมาห้องและจัดของต่อให้เสร็จจนเวลาล่วงเลยไปสักพักใหญ่ๆ
เห้ออออ!!! เสร็จสักที ไปหาไรกินดีกว่า ว่าแต่ชวนเด็กนั่นไปดีไหมนะ จะได้มีเพื่อน ฉันจึงรีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินลงมาจากชั้นบนหยุดตรงหน้าห้องเด็กน้อยนั่นพอดี เดินวนอยู่พักใหญ่ ไม่กล้าเคาะ ก็เลยได้เดินออกมาหน้าปากซอยคนเดียวซึ่งไม่ไกลเท่าไร ที่นี่เป็นแหล่งชุมชน ของขายเยอะ คนพลุกพล่าน ฉันก็เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย
[Patapee Talk]
ขณะที่ผมกำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาจากชั้นบนแล้วเสียงนั่นก็เงียบไปสักพัก...ผมเลยไม่ได้สนใจอะไร นั้นคงจะเป็นผู้หญิงคนที่ป้าพิมบอกไว้ซินะ เหอะ...เป็นผู้หญิงแบบไหนกันถึงยอมมาอยู่บ้านเดียวกับผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ตอนที่ป้าแกบอกผมก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องไม่ยอมแน่ๆ แต่มันคงเป็นคราวซวยของผมที่มาเจอผู้หญิงบ้า ที่กล้ามาอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง...
ความจริงผมย้ายออกไปอยู่คอนโดที่ป๊าซื้อไว้ให้ก็ได้นะ แต่ผมไม่อยากพึ่งพาท่านเพราะผมไม่อยากสืบทอดสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ ผมไม่เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ท่านทำ เฮ้อออออ....
เตรียมตัวไปสนามแข่งรถดีกว่า ปกติผมจะไปทำงานพาร์ตไทม์ที่ผับใกล้ๆ เนี่ยแหละ ไปบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่หลักๆ ผมอยู่ที่สนามแข่งรถมากกว่า ที่นี่เงินดี ได้เงินง่าย และตายได้ง่ายๆ เหมือนกันแต่มีรึที่ผมจะกลัว
ผมลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อจะไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ผมไม่มีเรียนบ่ายและผมก็ไม่อยากเจอยัยผู้หญิงคนนั้น ปกติผมก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้านนี้เท่าไร ออกไปตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาก็ห้าทุ่มเที่ยงคืน แต่ถ้าวันหยุดก็เช้า หรือไม่ก็ไม่กลับเลย เพราะงั้นถ้าผมจะเลี่ยงไม่ต้องเจอผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ผู้หญิงวัยทำงานคงจะเป็นมนุษย์ป้าที่ขี้บ่น จุกจิก จุ้นจ้าน น่ารำคาญแน่ๆ ผมควรจะอยู่ให้ห่างเธอเอาไว้...นึกได้อย่างงั้นผมจึงรีบแต่งตัวและออกจากบ้านทันทีพร้อมกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง
"กว่าจะรับได้นะมึง ทำเชี่ยไรอยู่"
[เออ...ก็รับแล้วเนี่ย มีเชี่ยไร]
"เตรียมตัวเลย กูออกมาแหละ"
ติ๊ด!!!
ผมกดตัดสายโดยไม่รอฝังคำตอบจากมัน ไอ้ยูตะ มันเป็นเพื่อนผมตั้งแต่ปีหนึ่ง และก็มันเนี่ยแหละที่พาผมเข้าวงการแข่งรถ เพราะพี่มันเป็นเจ้าของสนาม และวันนี้ผมต้องไปสนามมีแข่งนัดสำคัญที่ผมพลาดไม่ได้ ผมไม่เคยใช้รถเวลาไปไหนมาไหน ส่วนมากก็รถเมล์หรือไม่ก็ไอ้สองตัวนั่นมารับมาส่ง รถที่ลงแข่งก็ของไอ้ยูทั้งนั้น มันเคยให้ผมมาใช้เพราะผมแข่งชนะได้มาคันหนึ่ง แต่ผมสะดวกแบบนี้ จะใช้ก็เฉพาะเวลาไปรับสาวมาตั้มเท่านั้นแหละ ไม่นานผมก็มาถึงสนามแข่ง....
“ไงมึง” ผมเดินตรงเข้าไปในห้อง VIP ที่มีแต่พวกผมและพวกเฮียๆ ของไอ้ยูเท่านั้น ไอ้ยูเอ่ยทักผมทันที ที่เห็นผมเปิดประตู ผมเดินเข้ามาแล้วยักคิ้วให้มันทีหนึ่งเพื่อเป็นการทักทาย
“พร้อมเร็วนะมึง เพิ่งบ่ายสองเอง” ไอ้ยูพูดพลางหยิบขนมเข้าปาก ส่วนเพื่อนผมอีกคนก็นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาตัวถัดไป มันชื่อ ธาม เรียนเก่งมาก และเงียบมาก เราสองคนโตมาด้วยกันและผมบังคับให้มันมาเรียนที่นี่ เพราะผมไม่มีเพื่อน
“กูแค่ไม่อยากอยู่บ้าน” ผมละสายตาจากไอ้ธามและหันไปตอบไอ้ยู
“พี่สาวมึงมาแล้วเหรอว่ะ...ฮ่าๆๆๆ” มันถามผมพร้อมเสียงหัวเราะลั่น แม่งกวนตีนจริง...น่าเตะปากไหม
“ไม่..ใช่...พี่...กู....สัส” ผมหันไปบอกเน้นมันทีละคำอย่างชัดเจนแต่ตามด้วยสรรพนามที่ใช้เรียกมันอยู่บ่อยๆ อารมณ์เสียชะมัดแค่รู้ว่าจะมีคนมาแย่งอากาศหายใจในบ้านก็ขัดใจจะแย่ละ นี้ยังจะเป็นผู้หญิงอีกถึงผมจะชอบเอาผู้หญิงแต่ผมก็ไม่ชอบที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาหรอกนะ น่าเบื่อ!!! พวกผมก็คุยกัน...เรียกว่าด่ากันจะดีกว่า จนเวลาล่วงเลยมาเกือบทุ่ม ผมต้องลงไปเตรียมตัวลงสนามและผมมั่นใจมากว่าผมจะชนะเหมือนทุกครั้ง
บรึ่นนนนน.....ฟิ้วววววส์
“สุดยอดเหมือนเดิม”
เมื่อการแข่งจบลงและแน่นอนผมเป็นฝ่ายชนะ ทันทีที่ผมเปิดประตูลงมาจากรถก็ได้ยินเสียงเฮ้ดังลั่นสนาม ตามด้วยเสียของไอ้ยูเพื่อนผมที่กำลังเดินมาพร้อมกันไอ้ธามและเฮียๆ ของมันผมก็ตอบรับด้วยการยักคิ้วให้เหมือนเดิมและเดินขึ้นไปบนห้องพักเพื่อเปลี่ยนชุด
ผมเงยหน้าดูเวลา สองทุ่มกว่าเอง แต่ผมรู้สึกเหนื่อยและอยากนอน วันนี้ผมตั้งใจจะไปนอนที่คอนโด ไม่อยากกลับไปบ้านนั้น ปกติผมจะไปนอนบ้านไอ้ยูแต่วันนี้มันมีญาติมาเต็มบ้าน มันเลยต้องกลับเร็ว และไอ้ธามมันไม่เคยให้ผมไปนอนด้วยเลยไม่รู้คอนโดมันมีอะไรไม่มีใครได้ไปเหยียบสักคน แต่...ผมดันหาคีย์การ์ดไม่เจอ
ลืมเหรอ...โธ่เว้ยยยย ลืมได้ไงวะ! ผมจึงต้องเปลี่ยนเส้นทางกลับไปบ้านเพื่อเอาคีย์การ์ดก่อน
แกร๊กกกก....แอ๊ดดดด
หลังเปิดประตูบ้านเข้ามา สายตาดันไปปะทะเข้ากับร่างบางของใครสักคนที่นอนอยู่ตรงโซฟากลางห้องนั่งเล่น และเสียงดังมาจากโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ผมจึงค่อยๆ เดินอ้อมมาข้างหลังโซฟาตัวนั้นแล้วโน้มตัวลงมามองพินิจพิจารณาใบหน้ามนได้รูป ขนตายาวเรียงเป็นแพ แก้มอมชมพูเป็นธรรมชาติที่ปราศจากการแต้มสี ผมยาวเป็นลอนสีน้ำตาลอ่อน ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวยมาก และผมกำลังหลงใหลใบหน้านั่น นี้เธออายุเท่าไรกันนะ มากกว่าผมงั้นหรอกตัวเธอเล็กมากแต่ทรวดทรงเธอไม่สมกับตัวเอาซะเลย แล้วดูแต่งตัวดิ ล่อเสื้อล่อตะเข้เหลือเกิน กางเกงขาสั้นที่เผยให้เห็นขาขาวเนียน กับเสื้อยืดตัวใหญ่แต่ไม่สามารถบดบังสองเต้าใหญ่ๆ ของเธอได้เลย ผู้หญิงอะไรหุ่นเอ็กซ์เป็นบ้า
....มันน่าไหมเนี่ย
เอื้อกกกก....
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ลำคอแห้งผากไปหมด นี่เหรอผู้หญิงวัยทำงานที่จะมาอยู่บ้านเดียวกับผม ไม่เหมือนที่ผมคิดไว้สักนิด เธอผ่านมาเยอะแค่ไหนกันถึงได้มานอนอ่อยผู้ชายแบบนี้.....เหอะ!
Waiting for the first comment……
Please log in to leave a comment.