แอ๊ดดดดด.......
ผมเปิดประตูเข้ามาในบ้านแต่ไม่เห็นคนตัวเล็กนั่น ขึ้นห้องไปแล้วหรอ ผมกำลังจะเดินขึ้นบันไดแต่ดันได้ยินเสียงกุกกักมาจากในครัว จึงเปลี่ยนเส้นทางทันทีและมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องครัว ผมเห็นเธอกำลังเอื้อมหยิบยาในตู้
“อ่ะ...นะ...นาย” ผมเดินเข้าไปช้อนหลังเธอแล้วเอื้อมหยิบยาพร้อมกับที่เธอคงตกใจเลยหันกลับมาดันหน้าอกผมไว้เพื่อไม่ให้ผมใกล้เธอไปมากกว่านี้ แต่ใช้มือข้างเดียว…? อีกข้างต้องเจ็บแน่ๆ ถึงได้ไม่ใช้มัน
“อันนี้เหรอ...หืม” ผมหยิบหลอดยานวดลงมาแล้วถามคนตัวเล็กตรงหน้า ดวงตานั่นเพิ่งผ่านการร้องไห้มาซินะ เธอหลบสายตาผม มีอะไรปิดบังแน่ๆ
“อืมมม” เธอหยิบหลอดยาไปจากมือผมและผลักผมออก
“เดี๋ยว….”
อ๊ะ...โอ๊ยยยย///
ผมแค่จับเบาๆ เองนะ ทำไมเจ็บขนาดนี้ รึว่า…
“ปล่อยยยย” ผมเลยปล่อยมือออกจากแขนเธอเพราะผมรู้ว่าเธอน่าจะเจ็บมาก
“หนูดา...ไปหาหมอไหม” ผมเอ่ยขึ้นขณะที่เธอกำลังจะเดินขึ้นห้อง
“.....”
“คุยกันก่อนดิ…” ผมเดินไปดักหน้าเธอไว้ ทำไมเธอเงียบแปลกๆ นะ ไม่โวยวายเหมือนเก่าเลย
“ไอติมเป็นไงบ้าง”
“น้องแค่ตกใจ...ไม่ได้เจ็บอะไร”
“อืม” อะไรคือ อืม เธอต้องด่าผมดิ ไม่ใช่แบบนี้ อะไรวะเนี่ย
“หนูดา...เป็นอะไร”
“.....” เธอส่ายหน้าแล้วเดินขึ้นบันไดไป เหอะ...ยัยเตี้ยนี่กำลังทำให้ผมสติแตก
“หนูดา...ไม่เอาแบบนี้ พูดกับฉันหน่อยนะ” ผมกอดเธอจากด้านหลัง แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ไม่โวยวาย ไม่ไล่ ไม่อะไรทั้งนั้น ไม่ใช่ยัยเตี้ยของผมเลยสักนิด แต่เอ๊ะ!! เพื่อความแน่ใจผมเลื่อนมือขึ้นมาแตะหน้าผากเธอเบาๆ ไม่สบายจริงๆ ด้วย แล้วยังจะมาเจ็บแขนอีก ยิ่งไปกันใหญ่ ผมตัดสินใจช้อนร่างเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิง
“ทะ..ทำอะไร”
“ไปโรงพยาบาล”
“ไม่ไป...นอนพักเดี๋ยวก็หาย” ผมวางเธอลงบนเบาะฝังคนนั่งและคาดเบลล์ให้เธอ
“ห้ามลง!!!” จากนั้นผมก็เดินอ้อมไปอีกฝั่งและขับรถออกตรงไปโรงพยาบาลทันที
@ โรงพยาบาล
ผมจอดรถตรงทางขึ้นฉุกเฉินและรีบลงมาจากรถเพื่อจะไปช่วยคนตัวเล็กที่ตอนนี้มีบุรุษพยาบาลหน้าหม้อตรงเข้ามาพร้อมจะช่วยเหลือเธอซะเหลือเกิน น่าหงุดหงิดชะมัด
“ไม่ต้อง!!!!” ผมบอกไอ้หน้าหม้อนั่นที่กำลังจะเข้ามาพยุงผู้หญิงของผมและเดินเข้าไปจูงมือเธอ
“ขอบคุณนะคะ...” คนตัวเล็กหันไปบอกไอ้บุรุษพยาบาลนั่นแล้วหันมาต่อว่าผมเสียงแข็ง “ปล่อย!!! ฉันเดินเองได้”
เหอะ!..เปลี่ยนเสียงไวดี!
“หรือจะให้อุ้ม...หืม” ผมก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กข้างกาย จากนั้นเธอก็ส่งค้อนอันเบ้อเริ่มมาที่ผมแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“นั่งรออยู่นี้ก่อนนะ…”
“เดี๋ยวดิน…” ผมกำลังจะไปหาเฮียหมอที่ผมรู้จักให้แต่เธอดันรั่งมือผมไว้
“หืม…?”
“ประกันฉันไม่ได้อยู่ที่นี่...ไปโรงพยาบาลประกันเถอะ” นึกว่าเรื่องอะไร ก็แพงจริงนั่นแหละก็ได้ชื่อว่าเอกชนก็แพงทั้งนั้น แต่ผมไม่สนเรื่องนี้อยู่แล้วเพราะที่นี่หมอเก่งและดีที่สุด
“ฉันจะจัดการเอง…” ผมพูดพร้อมเอามือโยกหัวเธอเบาๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องเฮียหมออย่างถือวิสาสะ
“คุณ...เข้าไม่ได้นะคะ” พยาบาลที่อยู่ในห้องนั้นรีบมาห้ามผม
“ไม่เป็นไรครับ...คนไข้ผมเอง” คนตัวสูงที่สวมชุดกราวพูดขึ้น
หมอไวน์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอจบใหม่ที่เก่ง หล่อ และรวยมาก ทั้งพยาบาลและคนไข้ติดกันตรึม
“ไงมึง...คำว่ามารยาทนี่ไม่มีอยู่ในหัวพวกมึงจริงๆ เลยซินะ” นี่แหละคำทักทายของพวกผม
“ขี้เกียจรอว่ะ คนแม่งเยอะฉิบ”
“ใครวะ…?” มันถามขึ้นเพราะรู้ดีว่าไม่ใช่ผมแน่นอน ผมยักไหลให้มันและเดินไปพายัยเตี้ยนั่นเข้ามาในห้อง
“สวัสดีค่ะ…”
“ครับ...สวัสดีครับ น่ารักจัง...ทำไมถึงเลือกไอ้ดินล่ะครับ ไม่สนใจหมอแบบผมบ้างเหรอ...”
“มึงอยากตายเหรอครับ...เฮียหมอ” ผมพูดเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความอำมหิต บอกไว้ก่อนเลยแม้แต่เพื่อนก็ห้ามยุ่งกับคนของผม
“โห...ไอ้เด็กเวร มึงไม่ต้องนับถือกูแล้วก็ได้มั้ง”
ผมยักไหล่ให้คนสวมชุดกราวนั้นพลางเอามือล้วงกระเป๋าแล้วยืนพิงประตูเพื่อเปิดทางให้เฮียหมอได้ตรวจดูอาการของคนตัวเล็กและส่งไปให้แพทย์เฉพาะทางต่อเพราะเหมือนจะเกี่ยวกับกระดูก
“มึงไม่ต้องไป ไอ้ดิน ให้พยาบาลพาไปนั่นแหละดีแล้ว” ผมกำลังจะตามหนูดาไปแต่เฮียหมอดันห้ามไว้ซะก่อน ผมเลยเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงฝั่งตรงข้ามแทน
“ว่ามา…” ผมรู้ว่าเฮียมีเรื่องจะคุยกับผมแน่ๆ ถึงได้เรียกไว้แบบนี้ และถ้าให้เดานะคงไม่พ้น
“เด็กที่ไหนวะ น่ารักฉิบ” นั่นงะ...เป็นอย่างที่ผมคิด
“ยุ่ง!!!!”
“อ้าวไอ้นี่...จริงจังช้ะ…?” เฮียหมอพูดพลางหยิบแฟ้มของหนูดามาดู
“ยังไม่รู้…”
“แต่กูดูมึงออก...เชี่ยยยย!!! นี่มึงสอยรุ่นพี่เลยหรอวะ” มันตกใจอะไรนักหนา
“แล้วงะ…?”
“ทำไมหน้าเด็กจังวะ กูนึกว่าอยู่ปีหนึ่งปีสอง รุ่นกูเลยนะนั่น”
“ว่าแต่...ทำไมถึงเป็นคนนี้วะ ไหนมึงบอกไม่อยากคบใครไง…” ผมยักไหลให้แทนคำตอบ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอบไม่ได้ เรานั่งคุยกันอยู่พักใหญ่หนูดาก็เดินกลับมาพร้อมพยาบาลคนนั้น มีผ้าพันแขนมาด้วยสงสัยแขนจะซ้นแน่ๆ
“หมอว่าไง” ผมรีบลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปพาเธอมานั่ง
“แขนซ้นน่ะ...สองสามวันคงหาย”
“งั้นเดี๋ยวฉันมา” ผมเลยไปเคลียร์ค่ารักษาเพื่อจะได้พาคนตัวเล็กกลับบ้านซะที
และเดินกลับมารับเธอที่ตอนนี้นั่งคุยกับเฮียหมออยู่ คุยเรื่องอะไรกันนะ...หึ
“ปะ...กลับ” ผมเดินไปจับมือเธอลุกขึ้นและลากออกไปจากตรงนั้นทันที
“ไปก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” หนูดาหันไปลาเฮียหมอที่ตอนนี้มันนั่งยิ้มเยาะผมอยู่ที่โต๊ะ ผมหงุดหงิดนิดหน่อยและไม่ชอบเวลาที่ยัยเตี้ยนี่คุยกับคนอื่นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนั้น…
[Neerada Talk]
ดินพาฉันมาขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาเป็นอะไรไปนะ ฉันลอบมองเขาเป็นระยะพลางนึกถึงเรื่องที่หมอบอกว่า
ฉันเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดินทำแบบนี้ พามาหมอแบบนี้ แถมยังหวงมากซะด้วย
เขาคิดยังไงกับฉันกันแน่นะ ขอคบฉันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้อีกเลย ไม่เคยบอกว่าชอบฉันเลยสักครั้ง ชมก็ยังไม่เคย ฉันดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดยังไง แต่ตอนนี้ฉันชอบเขาเข้าแล้วจริงๆ นั่นแหละ เตรียมตัวเสียใจได้เลย...ยัยหนูดา
“ถ้ายังไม่หยุดมองแบบนั้น…ฉันจะไม่ทนแล้วนะ” เสียงนั่นทำให้ฉันตื่นจากภวังค์และหันหน้าไปมองทางอื่น นี่ฉันเผลอจ้องเขาจนเขารู้ตัวเลยเหรอเนี่ย แล้วอะไรไม่ทน...ไม่ทนอะไร ไอ้เด็กบ้า ในสมองเขามีแต่เรื่องใต้สะดือรึไงนะ
“อะ..อ๋อ เท่าไรล่ะ...ค่ารักษา เดี๋ยวฉันเอาเงินให้” ฉันเลยหันไปถามเขาแก้เก้อเขิน
“ให้คืนเป็นอย่าง...อื่นได้ปะ” เขาไม่พูดเปล่ายังใช้สายตาไล่มองตามร่างกายของฉัน จนฉันต้องเอามือที่เหลือข้างเดียวนั่นขึ้นมาป้องกันร่างกายจากสายตาหื่นกระหายนั่น สมองเขาคงมีแต่เรื่องแบบนี้จริงๆ ไปอดอยากมาจากไหนนักหนา
“นี่!!!!...นาย” เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก ฉันเกลียดรอยยิ้มไอ้เด็กบ้านี่
“พรุ่งนี้ไปทำงานได้รึเปล่า…” เปลี่ยนเรื่องเร็วจังนะ
“หมอให้หยุดหนึ่งวัน”
“แล้วก็ไอ้รอยที่คออ่ะ ปิดยังไงให้เด็กเห็น” เออใช่ลืมไปเลย เขาเห็นกันหมดโรงพยาบาลแล้วมั้ง โอ๊ยยยย...อยากจะบ้าตาย
“ก็ฉันรีบ…” ฉันตอบพลางเอามือมาปิดที่คอ
“แล้วกล้าว่าฉันเป็นหมาได้ยังไง...หืม”
“แล้วจะให้ฉันบอกว่าไงล่ะ ให้บอกว่าน้าดินดูดคอน้าเป็นรอย ยังงี้เหรอห๊ะ!” อุ๊บบบ พูดอะไรออกไปเนี่ยหนูดา ฉันเอามือขึ้นมาปิดปากและหันไปมองนอกกระจก หน้าฉันแดงแค่ไหนแล้วเนี่ย มีความรู้สึกว่าร้อนไปทั้งหน้า ถึงบ้านทันเวลาพอดีเลย
“เดี๋ยว...” ฉันกำลังจะปลดเบลล์ออกแต่ไอ้เด็กบ้านั่นดันรั้งคอฉันเขาไปหาโดยที่ฉันไม่ทันระวังตัว เลยทำให้ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ ตาสบตา...สายตาก็จ้องมองกัน...มันใช่ไหมเนี่ย ใจฉัน..เขาจะได้ยินเสียงใจฉันไหมนะมันเกือบจะออกมาเต้นอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว ฉันไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่าหมอนี่หล่อขนาดนี้….
“กับเด็กน้อยบอกว่าเป็นหมาก็ได้ แต่ถ้าผู้ชายถามให้บอกแบบนี้รู้ไหม จุ๊บ…” เขาพูดจบแล้วจูบมาที่ปากฉันเบาๆ แล้วผละออก ตายๆๆ ยิ่งเขาทำแบบนี้ฉันยิ่งทำตัวไม่ถูก ฉันต้องทำยังไงต่อ สติ...หนูดา ดึงสติกลับมาเดี๋ยวนี้
“ไอ้เด็กบ้า...” ฉันดันตัวเขาออกและเปิดประตูเพื่อจะลงจากรถ แต่มันลงไม่ได้หมอนั่นกอดรั้งฉันไว้แน่ๆ ฉันหลับตาและพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดเขา แต่มันแน่น..ทำไมแน่นแบบนี้ ฮึบบ!!
“หึ...หนูดา ทำอะไร” ยังมีหน้ามาถามอีก
“ก็ปล่อยฉันซิ”
“หืม...?” ฉันเลยหันกลับไปหาเขาเพื่อจะต่อว่า...แต่ ทำไมหมอนั่นกำลังปลดสายเบลล์ของตัวเองอยู่ อ้าวแล้วใครรั้งฉันไว้อะ รึว่า...นี่ฉันไม่ได้ปลดสายเบลล์เหรอเนี้ย...โอ๊ยยยย ยัยหนูดา อายไหมล่ะทีนี้ อยากจะเอาค้อนมาทุบหัวตัวเองให้สลบไปเลยจริงๆ ฉันไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาต้องกำลังหัวเราะเยาะฉันอยู่แน่ๆ ฉันเลยเอื้อมมือไปปลดสายเบลล์ออกแล้วเดินลงจากรถอย่างไว เข้าห้อง..ฉันต้องเข้าห้องให้เร็วที่สุด
แต่ทว่า...ร่างของฉันถูกดึงเข้าไปกอดจากด้านหลังอย่างระมัดระวังเหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ...แขนข้างหนึ่งกอดรัดมาที่เอวและอีกข้างโอบรัดที่คอมาถึงหัวไหล่อีกข้างของฉัน เขาก้มหอมลงมาที่หัวฉันเบาๆ กลิ่นน้ำหอมที่ปะปนกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ บวกกับกอดที่แสนอบอุ่นทำให้ใจฉันเต้นไม่ปกติอีกแล้ว นี่เขากำลังทำให้ฉันหลงรักเขาอยู่นะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันต้องแย่แน่ๆ
“นายดูดบุหรี่ด้วยเหรอ…?”
“อืม...ทำไมเหรอ”
“เปล่าหรอก ฉันแค่ไม่ชอบกลิ่นมันน่ะ” ฉันพูดพลางแกะมือเขาออกและเดินขึ้นห้องไปทันที ความจริงมันเป็นแค่ข้ออ้างที่จะออกมาจากอ้อมกอดนั่นต่างหาก ถ้าอยู่นานกว่านี้...กำแพงที่ฉันสร้างไว้มันต้องพังลงเป็นแน่แท้ ฉันหันหลังพิงประตูสูดลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนั้นพลางคิดว่าฉันจะหนีความรู้สึกพวกนี้ยังไงดี ฉันไม่อยากเสียใจ เสียน้ำตา เสียเวลา ให้กับผู้ชายแบบนี้ แถมเขายังได้ในสิ่งนั้นไปแล้ว ไม่มีวันที่เขาจะรักฉันจริงๆ เขาแค่ยังไม่เบื่อเท่านั้นเอง
Waiting for the first comment……
Please log in to leave a comment.