[Patapee Talk]
หลังจากที่ผมบอกเธอ ว่าผมไม่ได้เป็นเกย์...และชอบผู้หญิง เธอก็ดูเปลี่ยนไป ระหว่างทางกลับบ้านเราไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ มันมีความรู้สึกแปลกๆ แทรกเข้ามา แต่ทำไมผมต้องสนใจด้วยวะ
ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับผม พอถึงบ้านเธอก็เดินขึ้นห้องตัวเอง แล้วปิดประตูเงียบ
เวลาล่วงเลยมากว่าสองชั่วโมงแล้วยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะออกมาเลย แต่มันไม่ใช่ความผิดผมนะ ทำไมยัยเตี้ยนั่นทำให้ผมรู้สึกผิดได้ตลอดเลย
ครืด!….ครืด!
ผมหงายหน้าจอขึ้นมาดูก่อนเลื่อนสไลด์รับสายไอ้ยูตะ
[มึงทำเหี้ยไรอยู่ กว่าจะรับสายได้ กูนึกว่าตายห่าไปแหละ…] พอผมกดรับสาย ไอ้ยูตะมันก็บ่นผมยับ
“มีเหี้ยไรวะ!” ความหงุดหงิดที่มีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม บวกเพิ่มเข้าไปอีกเท่าตัว จนผมตะคอกกลับเสียงลั่น
[อ้าว...ไอ้ห่า กัดกะหมามาไง]
“เออ..!”
[แล้วมึงอยู่ไหนแล้วเนี่ย]
“ก็อยู่บ้านดิ”
[นี่อย่าบอกนะ...ว่ามึงลืมนัดวันนี้]
“นัดกะใครวะ” วันนี้ผมมีนัดกับใครด้วยเหรอ
[มึงรีบแต่งตัวออกมาเลย กูเลี้ยวเข้าซอยมาละ...เร็วด้วยไอ้ห่า]
หลังจากที่ผมวางสายจากไอ้ยูตะก็ลุกหยิบแจ็คเก็ตตัวโปรดและออกจากบ้านทันที
จำได้แล้วว่าวันนี้ยัยแสบประจำกลุ่มกลับมาจากไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น
ผมลืมไปสนิทเลยว่าต้องไปรับ พลอยใส เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พวกผมสนิทด้วยเพราะเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับไอ้ธาม เลยมาคลุกคลีอยู่กับพวกผมตลอดและเธอก็มีประโยชน์มากในการค่อยกันพวกผู้หญิงน่ารำคาญให้ผม….
สักพักพวกผมก็มาจอดรถอยู่หน้าสนามบินก่อนที่ไอ้ยูตะจะต่อสายไปบอกพลอยใสว่าเรารอกันอยู่ตรงไหน
ก๊อกๆๆๆ
พลอยเดินมาเคาะกระจกรถเหมือนจะบอกให้พวกผมลงไปช่วยเธอเอากระเป๋าขึ้นรถแต่...ไม่มีใครสนใจสักคน
กึกกก…
“พวกคุณชายทั้งหลายมีความเป็นสุภาพบุรุษเหมือนเดิมเลยนะ” เธอเปิดประตูรถและเข้ามานั่งเบาะหลังกับผมเพราะไอ้ยูตะเป็นคนขับ ไอ้ธามก็นั่งเบาะข้างคนขับ
“ไง..มึง มีอะไรมาฝากกูป้ะ?” ไอ้ยูตะหันมาถามผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม
“มีของทุกคน…แต่คืนนี้กูอยากแดกเหล้า” เธอว่า
“จัดซิค้าบ รออะไร” และไอ้ยูตะก็ตอบกลับเสียงสดใส เรื่องแดกเหล้านี่ของชอบมันเลย
พวกมันคุยกันอยู่สองคนในรถและผมก็ไม่ได้สนใจด้วย...ตอนนี้ในหัวผมมีแต่เรื่องของยัยเพื่อนบ้านคนใหม่ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องคิดถึงเธอตลอดเวลา...เฮ้ออออ! เธอมันแม่มดชัดๆ
@ ผับ
“เห้ย..! มึงจะไปไหน” พอรถจอดผมก็เปิดประตูลงจากรถทันที ไอ้ยูตูจึงเอ่ยทักผม
“วันนี้กูมีงาน เดี๋ยวไปหาที่โต๊ะ”
ผมตอบมันและเดินเข้าทางหลังร้านทันที ผมทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่ เฉพาะตอนที่คนเขาขาดเท่านั้น เขาถึงจะโทรเรียกผมมา และวันนี้มือกีตาร์ประจำวงไม่มา ผมจึงต้องทำหน้าที่แทน วันนี้วันเสาร์ซะด้วย คนเยอะแน่
ติ้งงงง…
UTa : พวกกูอยู่ VIP5
Ploy@sai : เร็วนะ...รออยู่
TiEm : เออ!!! มึงมาเร็วๆ เลย กูรำคาญมันสองตัวจะแย่
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านไลน์ที่พวกมาส่งมาให้ผม ตอนนี้ผมอยู่บนเวทีแล้ว กำลังกวาดสายตาหาพวกมันที่โซน 5 อ้อ...เห็นละ พลอยยืนโบกมือให้ผมอยู่ข้างบนนั้น…
01:00 น.
ผมรับเงิน เก็บของเสร็จเรียบร้อยและกำลังจะไปหาพวกมันที่โต๊ะ
“อุ๊ย! คุณที่เล่นกีตาร์นิ” มีผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักผมระหว่างทาง ผมก็เลยพยักหน้ารับแทนคำตอบ
“ชื่ออะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยขึ้นพลางเอามือมาคล้องคอผม เธอกำลังอ่อยผมอยู่ หุ่นเธอก็ไม่เลวนะ หน้าก็สวยใช้ได้ ผมกระตุกยิ้มที่มุมปาก เพราะเหยื่อเดินเข้ามาหาผมเองโดยที่ผมไม่ต้องออกแรงเลย
“ดินครับ...โต๊ะเพื่อนผมอยู่ข้างบน ไปดื่มด้วยกันมะ” ผมเลยเดินควงสาวสวยคนนั้นมาที่โต๊ะด้วย
“โห...มึงนี่สุดยอดจริง มาทีไรได้ทุกที” ไอ้ยูตะเอ่ยพร้อมยกนิ้วโป้งให้ผม “มาๆ นั่งก่อน หรือไม่ไหวแล้ววะเพื่อน”
เรานั่งคุยกันสักพัก...หญิงสาวข้างกายผมก็เย้ายวนใจซะเหลือเกิน จนผมต้องขอตัวกลับก่อนและเราก็พากันมาต่อที่คอนโดของเธอ ผมไม่ชอบผูกมัดก็เลยหาแบบนี้แก้ขัดไปเรื่อยเปื่อย แบบว่าน้ำแตกแล้วแยกกัน อะไรประมาณนั้น ผมกะว่าจะไปนอนที่คอนโดตัวเอง แต่ในใจก็เป็นห่วงยัยเตี้ยนั่นนะ
ช่างเหอะ…ช่วงนี้ยังไม่กลับไปจะดีกว่า ยิ่งผมเห็นเธอเป็นแบบนี้ยิ่งหงุดหงิด...
เช้าวันจันทร์
กริ้งงงงงง….กริ้งงงงงงงง
ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อมีเสียงดังมารบกวนการนอนของฉัน ได้เวลาแล้วเหรอเนี่ย ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาปิดนาฬิกาปลุกแล้วลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวทันที
วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานที่ใหม่ ฉันจะเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ พอแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินลงมาจากห้อง พลางหยุดที่หน้าประตูของหมอนั่น เมื่อวานเขาไม่ได้กลับมานอนบ้านสินะ
...แต่ก็ดีแล้วหนิ
ฉันสบายใจที่สุดเลย...ไม่ต้องกลับมาเลยยิ่งดี
@ บริษัท Y
“ฉัน นีรดาร์ ค่ะ” ฉันเดินเข้าไปบอกประชาสัมพันธ์
“อ๋อค่ะ เชิญชั้นสองเลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันเดินขึ้นมาบนชั้นสองตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก ที่นี่ดูใหญ่กว่าที่กรุงเทพอีกนะ
“คุณนีรดาร์ ใช่ไหมคะ” ฉันหันไปทางต้นเสียง ผู้หญิงวัยประมาณสามสิบส่งยิ้มมาให้ฉัน ดูท่าทางเธอใจดีจัง
“ใช่ค่ะ”
“พี่ชื่อ วิภา นะคะ เป็นเลขาของคุณ พัศกร ผู้จัดการของคุณนีรดาร์”
“เรียกหนูดา ก็ได้ค่ะ”
“ค่ะ น้องหนูดา เดี๋ยวเชิญทางนี้เลยค่ะ ผู้จัดการรออยู่ค่ะ” แล้วเธอก็พาฉันไปยังห้องห้องหนึ่ง น่าจะเป็นห้อง ผจก.คนใหม่ของฉันเนี่ยแหละ
ก๊อกๆๆ … แอ๊ดดดด
“มาแล้วค่ะ คุณกร” พี่วิภาบอกผู้ชายคนนั้นที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในแฟ้ม คนนี้เหรอ ผจก.ฉัน ดูเขายังหนุ่มอยู่เลย เก่งจังได้เป็น ผจก. ตั้งแต่ยังหนุ่ม
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง” สิ้นเสียง พี่วิภาก็เดินออกไปจากห้องทันที
“นั่งก่อนสิ” เขาบอกฉันทั้งๆ ที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสาร อะไรของเขานะ…
พรึบ...
เขาปิดแฟ้มลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองฉัน โอ้แม่เจ้า...หล่อมาก ยังกะหลุดมาจากนิยายเลย คิ้วเข้ม จมูกเชิดเป็นสัน ดวงตาดุๆ คู่นั้น ดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ไหนจะปากเรียวนั่นอีก...ทำไมเขาถึงหล่อขนาดนี้
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงเขาทำให้ฉันหลุดจากภวังค์
“ปะ...เปล่าค่ะ” และเขาก็มองมาที่เก้าอี้เป็นเชิงว่าให้ฉันนั่งได้แล้ว นั่นสิทำไมฉันไม่นั่ง บ้าจริง ยืนจ้องเขาอยู่ได้
หลังจากที่ฉันนั่งลง เขาก็เริ่มอธิบายรายละเอียดคร่าวๆ ซึ่งไม่ต่างจากที่ฉันทำมาเท่าไรนักก็เลยเข้าใจได้ไม่ยาก แล้วเขาก็พาฉันไปแนะนำให้รู้จักทุกคน คนที่นี่ดูใจดีทุกคนเลย...รวมถึง ผจก.สุดหล่อของฉันด้วย
“นี่เป็นโต๊ะทำงานของคุณ” เขาพาฉันมาส่งถึงโต๊ะเลยแหละ เขาทำยังงี้กับทุกคนไหมนะ
“อ๋อค่ะ...ขอบคุณนะคะ” เสร็จแล้วเขาก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของเขา
“หวัดดีค่ะ พี่หนูดา”
“สวัสดีค่ะ” เสียงเล็กที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เอ่ยทักฉัน
“หนูชื่อ เฟรน นะ ยินดีที่ได้ร่วมงานพี่”
“เช่นกันค่ะ เออ…เฟรนทำที่นี่มานานยังอะ”
“เพิ่งได้หกเดือนเอง”
“อ๋อ….”
“ได้ยินข่าวมาว่าพี่ไปบวกกับเด็กเส้นเหรอ ถึงได้โดนย้าย”
“ก็...ประมาณนั่นแหละ”
“เจ๋งอะ…” จากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อย เรื่องนั้นเรื่องนี้ เด็กคนนี้ดูเป็นคนจริงใจดีนะ ฉันคงพอมีบุญเหลือให้เจอคนดีๆ อยู่บ้าง
Waiting for the first comment……
Please log in to leave a comment.