เพทายรู้สึกร้อนลุ่มไปทั้งตัว.. เนื่องจากรังสีความร้อนจากชายหนุ่มตรงหน้ากำลังแผดเผาร่างกายของเด็กหนุ่มให้กลายเป็นฝุ่นผง..
ไพรทูรย์ยืดกอดอยู่ตรงหน้าของเพทาย พยายามที่จะเค้นเอาความจริงจากปากเพทายให้ได้ว่าที่เคยบอกว่าไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์เด็กหนุ่มโกหกใช่ไหม
เด็กหนุ่มยืนเอียงหน้าอยู่ในท่าทีไม่ค่อยสบาย นิ้วเรียวบางเกาะกุมกันไว้ทั้งสองข้าง.. เพทายไม่รู้ว่าจะตอบพี่ชายยังไงดี เรื่องอดีตก็ไม่อยากพูดถึง แต่พี่ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็จะเค้นให้เพทายตอบคำถามให้ได้.. เพทายไม่ชอบสถานะการณ์กดดันแบบนี้เลย
“ แล้วไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ทำไมมันถึงขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่มาส่งเพทายได้ ” ชายหนุ่มยืนกอดอกแน่น เผยให้เห็นแผงอกใหญ่ ไพรทูรย์ในมาดผู้ปกครองน่ากลัวจริงจริง..
“ พะ..เพื่อนร่วมห้องของเพทายน่ะทูน ” อีกนิดเดียวคิ้วที่ขมวดอยู่บนหน้าของไพรทูรย์ก็จะรวมเป็นหนึ่งอันเดียวกันอยู่แล้ว..
เพทายสงสัยว่าแค่เพื่อนมาส่งที่บ้านทำไมพี่ชายถึงต้องโกรธตนมากขนาดนี้
“ ใช่ซิ เดี๋ยวนี้ก็มีเพื่อนแล้วนี่..” ไพรทูรย์พูดประชดประชันเหมือนเป็นโรคไบโพล่าร์ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนที่เลือกไปออกเดตแทนพาน้องกลับบ้านแท้ๆ
“ ไม่ใช่แบบนั้นนะทูน.. เพทายไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ แต่ลุงวสินไม่มารับเพทายสักที พะพายเลยอาสามาส่งเพทาย.. แล้วเพทายก็กลัวมากมากเลยล่ะทูน เพทายนั่งปิดตาตลอดทาง ”
“ พอแล้วล่ะพ่อทูน น้องกลับมาถึงได้อย่าวปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ ” หญิงชราพูดเสริมขึ้นแล้วยื่นแก้วน้ำเฮลซ์บลูบอยกลิ่นสละให้ไพรทูรย์ “ แล้วของเพทายล่ะยาย.. เพทายก็อยากดื่มนะ ” เด็กหนุ่มโอดครวญ “ วันนี้ไม่มีของเอ็ง.. ข้อหาทำยายใจหายใจคว่ำ ” เด็กหนุ่มทำตาปรือแล้วเบ้ปากใส่หญิงชรา
“ แม่.. ผมกลับมาแล้ว ” ชายร่างท่วมสภาพเหงื่อท่วมตัวเดินเข้ามาในบ้าน “ ไอ้สิน! แกหายหัวไปอยู่ไหนมา แม่บอกให้ไปรับหลาย แกไปอยู่ที่ไหนมา! ” หญิงชราใช้ฝามือเล็กตบไหลข้างขวาของลูกชายไปหลายที
“ โอ้ยแม่.. ผมเจ็บนะ ” หญิงชรามองหน้าลูกชายแล้วตบซ้ำลงไปที่เดิมอีกสองสามที “ ถ้าหลานมันเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง! แกจะรับผิดชอบไหม! นี่ดีนะที่มันรู้จักความให้เพื่อนขี่รถมาส่ง ทั้งๆที่มันก็กลัว.. กลัวมอเตอร์ไซค์แค่ไหนแกเคยจำได้ไหม! หา ? ไอ้สิน มานี่! เดินหนีไปไหน มาให้ฉันตีแกเดี๋ยวนี้! ”
เป็นครั้งแรกที่ไพรทูรย์เห็นหญิงชราเผยอารมณ์รุนแรงออกมามากขนาดนี้ ทั้งๆที่ปกติแล้วหญิงชราเป็นคนใจเย็น “ โอ้ยแม่.. ฟังผม.. ฟังผมก่อน ” ชายร่างท้วมคว้าข้อมือเล็กของหญิงชราเอาไว้ “ แม่ฟังผมก่อน.. ผมหลงทาง บ้านเมืองมันไม่เหมือนสิบปีที่แล้วเลยแม่ ถนนก็ทำใหม่ รถประจำทางผมก็นั่งผิดสาย ผมต้องนั่งถึงสามสายถึงรู้ว่าคันไหนผ่านโรงเรียนของไอ้ทายมัน.. ”
หญิงชราสะบัดแขนออกจากข้อมือแกร่งของลูกชาย “ แม่ก็กะไว้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แม่ไม่เคยใช้อะไรแกได้เลยนะวสิน! ” หญิงชราพยายามสงบสติอารมณ์ลง “ เหงื่อเปียกโชกทั้งตัว.. แกขึ้นไปอาบน้ำข้างบนไป แม่จะไปทำกับข้าวไว้ให้.. เพทายก็เอากระเป๋าไปเก็บแล้วมานั่งแกะถั่วลันเตาช่วยยายนะลูก ”
เย็นวันนั้นจบลงที่ผัดผัดรวมมิตรฝีมือของคุณยาย
ศาลารอรถประจำทางเช้านี้เงียบผิดปกติ.. ชายหนุ่มเพียงแค่ถามคำตอบกับเด็กหนุ่มแล้วก็นั่งเงียบไป..
เมื่อมาถึงโรงเรียนชายหนุ่มบอกเด็กหนุ่มเพียงแค่ว่าเดินขึ้นไปเรียนเองนะ วันนี้ไม่ไปส่ง แล้วชายหนุ่มก็เดินแยกไปอีกทาง.. ทิ้งให้เด็กหนุ่มต่อไปบนอาคารเพียงคนเดียว
“ ต้วมเตี้ยม! ” เสียงตะโกนจากเพื่อนร่วมชั้นดังขึ้นจากทางข้างหลัง เด็กหนุ่มตกใจเล็กน้อย..ค่อยยังชั่วหน่อยที่เด็กหนุ่มคุมสติได้ดี “ เมื่อวานฉันลืมบอกอะไรบางอย่าง ฉันลงชื่อนายลงกลุ่มชุมนุมให้แล้วนะ แค่อยากบอกเอาไว้เท่านั้น.. ” เด็กหนุ่มย่นคอ เอียงใบหน้าแล้วก้มหัวลงขอบคุณเพื่อนร่วมห้องหน้าหล่อ
“ วันนี้กินข้าวเที่ยงด้วยได้ไหม วันนี้ห่อข้าวมาด้วยน่ะ ” พะพายเอ่ยถาม..
“ พะพายไม่อยากไปกินกับเพื่อนของพะพายเหรอ ” เพื่อนร่วมห้องหน้าหล่อไม่ตอบกลับอะไร เพียงแต่วิ่งลัดหน้าเด็กหนุ่มขึ้นไปบนห้องเรียน
วันนี้เพทายมาโรงเรียนด้วยลุคผมเปียสองข้าง..ให้ความรู้สึกสดใส สบายๆ
เด็กหนุ่มเดินขึ้นบันไดสองชั้นแล้วเลี้ยวเข้าห้องเรียน แต่พบว่าที่ว่างข้างๆที่นั่งประจำของตนถูกใครบางคนช่วงชิงเอาไว้ เด็กหญิงในห้องต่างมองเพทายเดินเข้ามาในห้องด้วยสายตาขี้อิจฉาและริษยา
“ ทำไมพะพายถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ ” เด็กหนุ่มถามเพื่อนร่วมห้องหน้าหล่อ แต่พะพายไม่ยอมตอบอะไรกลับมา เพียงแค่เปิดหนังสือเพลงภาษาอังกฤษด้วยหน้าตาเรียบเฉียบ.. เช่นนั้นเด็กหนุ่มจึงเลิกสนใจเดผ้กหนุ่มผู้ชอบกวนประสาทตรงหน้าและเดินเข้าไปวางสัมภาระไว้บนเก้าอี้ แต่จู่ๆเพื่อนร่วมห้องหน้าหล่อก็พูดประโยคชวนงงขึ้นมา
“ วันนี้กลับบ้านด้วยนะ.. ”
แต่เพทายไม่เข้าใจความหมายที่พะพายกำลังจะสื่อ
“ วันนี้ไม่ได้เอารถมอไซค์มา อยากลองนั่งรถประจำทางดู.. บ้านเรากลับทางเดียวกัน ”
เพทายยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก แต่ก็ตกลง “ วันนี้พี่เรากลับด้วยนะ บอกเผื่อเอาไว้..” พะพายชำเลืองมองเพทายแต่ไม่ตอบอะไรกลับมา
ทั้งวันคนหน้าหล่อไม่ยอมห่างจากเด็กหนุ่มเลย ไปเรียนห้องไหน หรือนั่งตรงไหนพะพายจะตามไปด้วยเสมอ.. แม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำ
“ พะพายไม่ต้องตามเพทายไปไหนตลอดเวลาก็ได้ เพทายสติยังดีอยู่.. ” เพทายเดาเอาว่าที่เพื่อนร่วมชั้นอยู่ใกล้ๆไม่ยอมห่างไปไหนเป็นเพราะคิดว่าเพทายไม่ค่อยสมประกอบอาจทำอะไรพิเรนทร์
ทางพะพายยังคงไม่ยอมตอบอะไร.. แต่ตามติดเพทายเหมือนเป็นดวงวิญญาณที่คอยอยู่ข้างอย่างเงียบๆ
ท้องฟ้าสีส้มและเมฆขาววนกลับมาอีกครั้ง.. บนทางเดินไปยังหน้าโรงเรียน เพทายสังเกตเห็นนักเรียนหญิงหลายคนแอบมองแอบกรี๊ดกร๊าดพะพายกับเพื่อนในกลุ่มพวกเธอ ความจริงแล้วเพทายกำลังเดินอยู่ข้างข้างหนุ่มป็อปประจำสายชั้นมอสี่ซินะ..
“ วันนี้กินลูกชิ้นไหม เดี๋ยวไปซื้อมาให้ ” พะพายโน้มตัวลงมาใกล้กับใบหน้าของเพทาย เด็กหนุ่มเผยสีหน้ากังวลออกมา เหงื่อหลายเม็ดไหลลงมาตกกระทบลงกับใบหู
“ พะพายไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพทายขนาดนี้ก็ได้ เพทายไม่ได้หูหนวก ” คนหน้าหล่อยืนจ้องเด็กหนุ่มบนใบหน้านิ่งเฉยแล้วตอบกลับมา
“ ที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไม่ใช่เพื่อจะให้เพทายได้ยินชัดขึ้น แต่อยากสบตาเพทาย.. ”
เพทายหลับตาลงและใช้มือเล็กผลักใบหน้าใกล้ให้ออกห่างจากตน “ ก็เพทายเคยบอกแล้วไง ว่าเพทายรู้สึกไม่ดี แค่มองไม่กี่วิก็เหมือนจะหายใจไม่ออกแล้ว ”
ปิ๊บ ปิ๊บ..
เสียงแตรของรถประจำทางดังขึ้นเพื่อแจ้งเตือนนักเรียนว่ารถใกล้เคลื่อนเข้ามาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว
“ เพทาย.. พี่มาแล้ว ” ไพรทูรย์ในสภาพเหงื่อเปียกโชกบนเสื้อนักเรียนลอยชาย ไม่ต่างจากลุงสวินเมื่อคืน.. ผมสีดำเข้มเปียกโชกไปทั่วทั้งหัว
“ พี่พึ่งแตะบอลเสร็จ ขอโทษที ” เพทายเอื้อมมือไปจูงแขนพีชายให้รีบเดินไปขึ้นรถประจำทางข้างหน้า
“ ทูน..รถจะออกแล้ว เร็วเร็ว ” ขณะที่เด็กหนุ่มจูงแขนพี่ชายให้รีบไปขึ้นรถ แขนข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มถูกคว้าเอาไว้..
“ รอฉันด้วย ” มือแกร่งที่คว้าแขนของเด็กหนุ่มเอาไว้เลื่อนลงไปกุมมือเล็กของเด็กหนุ่มแทน
บนรถประจำทาง..ไพรทูรย์เลือกยืนโหนราวอยู่ท้ายคันรถ ส่วนเพทายและพะพายนั่งอยู่ข้างในรถประจำทาง
เพทายรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเพราะสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตอ่อนอ่อนของเพื่อนร่วมห้องกับพี่ชายชายข้างบ้าน ทั้งสองหนุ่มจ้องตากันไม่หยุดตั้งแต่เพทายขึ้นมานั่งบนรถแล้ว
พะพายละสายตาจากรุ่นพี่ของต้นแล้วหันไปถามเพทายว่าอยากฟังเพลงสากลด้วยกันไหม เด็กหนุ่มในลุคผมเปียสองข้างพยักหน้าตกลง
คนหน้าหล่อรูดซิบกระเป๋านักเรียนและหยิบเทปคาสเซ็ทเครื่องสีดำออกมาพร้อมกับต่อหูฟังที่มีสายหูฟังสองข้าง.. เทปคาสเซ็ทเครื่องนี้สามารถฟังเพลงได้ถึงสองคนแตกต่างกับเครื่องของชายหนุ่มที่โหนราวอยู่ตรวหน้าที่ฟังได้แค่คนเดียวเพราะหูฟังเป็นแบบ Headphone
พะพายหญิงเทปในตลับที่มีชื่อเพลงสากลเขียนไว้เต็มไปหมดบนกระดาษเอาจากกระเป๋าแล้วใส่มันลงไปในเล่นเทปคลาสเซ็ทสีดำ คนหล่อกดปุ่มเล่นเพลงแล้วยื่นหูไปสวมลงบนหูของเพทาย
“ ไม่ต้องตกใจนะ ฉันจะทำเบาๆ ” หูฟังบนมือแกร่งของคนหล่อถูกสวมลงไปบนหูบางของเด็กหนุ่ม ไพรทูรย์นิ่วหน้าเพราะความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นมาในใจของชายหนุ่มแต่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี.. ทางพะพายเผยรอยยิ้มร้ายแล้วชำเลืองมองไพรทูรย์
เกมนี้พะพายชนะ.. การกระทำตรงหน้ายั่วโมโหผู้เป็นพี่ชายได้เป็นอย่างดี
ไพรทูรย์เบือนหน้าหนีสองคนตรงหน้าแล้วหยิบเทปคาสเซ็ทในกระเป๋าตัวออกมาฟัง..
ด้านเพทายโยกหัวไปมาตามจังหวะเพลงที่พะพายเปิดให้ฟัง.. พะพายเหมือนเป็นคลังเก็บเพลงเพราะๆของเพทาย ไม่ว่าเพลงถัดไปจะเป็นเพลงอะไรที่ดังขึ้นมาในหูมักจะเป็นเพลงที่ถูกใจเพทายตลอด
ฝั่งพี่ชายแอบชำเลืองมองน้องชายอยู่เป็นระยะ
ไพรทูรย์เริ่มหรี่ตามองน้องชายที่เอ็นจอยกับเทปคาสเซ็ทของเพื่อนร่วมห้อง “ มีความสุขจริงนะเพทาย.. ” เขาขบฟันหน้าเข้าด้วยกันแล้วพูดเบาๆออกมา
พะพายถามเพทายว่าอยากลองอ่านเนื้อเพลงภาษาอังกฤษดูไหม คนหน้าหล่อรีบหยิบหนังสือเล่มใหญ่ในกระเป๋าออกมาอวดเด็กหนุ่ม นั่นเป็นหนังสือเล่มเดียวกันกับเล่มเมื่อเช้าที่พะพายตั้งใจอ่านมันบนโต๊ะ ในหนังสือมีเนื้อเพลงที่มีความหมายดีๆอยู่เยอะ หากเพทายได้ลองแปลดูอาจชอบเหมือนกับเขาก็ได้..
เด็กหนุ่มก้มลงมองดูสารบัญในหนังสือแล้วเลื่อนตามองหาชื่อเพลงที่ตนอยากรู้ความหมาย และบนหน้าที่หนึ่งร้อยเจ็ดสามมีชื่อเพลงที่เพทายอยากรู้ความหมายที่แม้จริงของมันเขียนอยู่ เป็นบทเพลงที่เด็กหนุ่มเคยได้ฟังในเครื่องเทปคลาสเซ็ทของพี่ชาย..
เนื้อเพลงของมันเขียนเอาไว้ว่า
Hold me now, touch me now
I don't want to live without you..
นี่เป็นท่อนที่เพทายชอบมากที่สุดในเพลง แต่เด็กหนุ่มยังไม่รู้เนื้อเพลงท่อนอื่นๆของบทเพลง จึงขอยืมหนังสือเพื่อนคนหล่อกลับไปหาความรู้เพิ่มเติมที่บ้าน
เพทายรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าใจความหมายของเนื้อเพลงที่ตนชอบสักที..
Waiting for the first comment……
Please log in to leave a comment.