ตอนที่1.สวมบทนักศึกษาฝึกงาน

Crazy In Love คลั่งรักยัยดีเจ 1718 words 2023-08-28 05:22:30

สวมบทนักศึกษาฝึกงาน

"สายแล้ว สายแล้ว"

ฉันยกข้อมือซ้ายดูเวลาอีกครั้ง พอลงจากรถเมล์ได้ก็ใส่เกียร์หมาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต

แฮ่ก! แฮ่ก!แฮ่ก! วิ่งหอบจนลิ้นห้อยแต่ใจสู้สุดชีวิตมองหาจุดหมายอยู่ที่ลิฟต์

"รอด้วยค่า รอด้วยค่า" ฉันใช้พลังเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ทำให้ลิฟต์เปิดออกในทันที

รีบยื่นขาขาวๆเข้าไปในลิฟต์ โดยไม่ลืมขอบคุณผู้มีพระคุณในเช้านี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉันจึงพนมมือไหว้รอบทิศทางทั่วทุกคนได้รับอานิสงส์ไปพร้อมกัน แล้วพ่นลมหายใจหอมสดชื่่นออกมาจนผมหน้ามาปลิวไสว

พรืด...

"ขอบคุณค่ะ..."

นิ้วเรียวกดปุ่มลูกศรขึ้นทันทีมองดูที่ตัวเลข 5 แสดงว่ามีคนขึ้นไปชั้นเดียวกัน คราวนี้ลิฟต์ปิดอีกครั้งทุกคนอยู่ในความสงบ มีสายตาหลายคู่แอบเหล่มองมาที่ฉันแล้วเลื่อนสายตาไปที่บัตรพื้นสีฟ้าตัวหนังสือสีดำที่คล้องคออยู่

นักศึกษาฝึกงาน ที่มีทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นพร้อมรูปแบบเก๋ไก๋ของฉันแล้วอมยิ้มเอ็นดูในความน่ารัก

สร้างสีสันเล็กๆแหละ...

ฉันไม่รู้ว่ามะโนไปเองหรือเปล่า ว่าหลายคนแอบอิจฉาในความขาวใส ผิวขาวอมชมพูเห็นเลือดฝาดดูมีสุขภาพดี ที่ฉันได้มาจากว่านหางจรเข้ในกระถางหลังห้องที่ใส่ปุ๋ยรดน้ำเอาใจใส่อย่างกับลูกในอก บางวันก็เปิดเพลงให้ฟังด้วยจะได้งามๆโตเร็วๆ

ฉันขยับตัวหลบพวกพี่ๆเขาออกจากลิฟต์ จนถึงชั้นที่ 5 บนสุดเหลือเพียงฉันกับผู้ชายตัวโต ที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งด้านซ้ายมือตัวฉันยืนติดกับแผงควบคุมแอบเหล่มองเขาดูจากเงาแล้วน่าจะหล่อ

เขาสวมสูทแต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราคาแพงโชยเข้าจมูก ฉันแอบคิดในใจคิดว่าเขาคงไม่รู้ตัวที่โดนแอบมองแบบนี้

โดยไม่ทันเห็นยิ้มเย็นที่มุมปาก

เด็กสมัยนี้นี่มัน

ตึ๊ง!... ลิฟต์จอดที่ชั้น 5 ประตูเปิดออกอัตโนมัติ ฉันจึงหันหน้ามองไปทางเขา

"เชิญครับ..." เขาผายมือให้และกดปุ่มเปิดไว้ให้อีกอย่างสุภาพบุรุษ ฉันจึงพุ่งตัวออกมาทันทีกลัวลิฟต์ปิดจนกระโปรงพลีทแทบโบยบิน

เดี๋ยวเขาจะมาด่าฉันว่าเงอะงะ

@ ห้องกรรมการผู้จัดการ

ฉันเดินผ่านห้องรองประธานกรรมการ ที่ทุกวันปิดไฟมืดแต่วันนี้มาแปลกในห้องเปิดไฟสว่างไสว หันไปมองเพียงแว่บเดียวแล้วเดินเลยมาอย่างไม่ใส่ใจนัก

"สวัสดีค่ะพี่อร" ฉันยกมือไหว้พี่อรซึ่งเป็นเลขาเก่าแก่ของคุณธนัท กรรมการผู้จัดการใหญ่แล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตนเอง วางถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ไว้ให้พี่อรหนึ่งชุดแล้วเดินเข้าห้องน้ำหวีผมใหม่ให้เรียบร้อยตบแป้งเพิ่มอีกนิดหยิบลิปกลอสที่ได้จากไลฟ์สดเมื่อวานทาบางๆ

"อืม ลิปกลอสเขาดีจริง" แก้มไม่ต้องปัดเพราะอมชมพูอยู่แล้ว ฉันหันซ้ายหันขวาสำรวจจนแน่ใจว่าดูดีจึงออกจากห้องน้ำกลับไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง

หย่อนก้นลงไปนั่งยังไม่ถึงห้านาที

"น้ำขิง คุณธนัทเรียกจ๊ะ"

"ค่ะพี่อร" ฉันรีบลนลานลุกจากโต๊ะรีบเดินตรงเข้าในห้องทันที

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

ฉันเคาะประตูห้องตามมารยาท

"เชิญครับ"

"สวัสดีค่ะคุณธนัท" ฉันพนมมือไหว้แล้วนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคุณธนัท

คุณธนัทเป็นผู้มีพระคุณที่เอ็นดูฉันมากที่สุดรองจากพ่อกับแม่

คุณธนัทคือผู้ที่ฉันช่วยจากอาการโรคหัวใจกำเริบ ในงานมอเตอร์โชว์เมื่อปีที่แล้ว (อาการท่านมากำเริบที่หน้าบูธพอดี)

คุณธนัททิ้งนามบัตรไว้ให้และได้ไลน์จากฉันไป วันนั้นฉันก็ยังงงๆอยู่ว่าให้ไลน์ไปได้ยังไง

"หนู มีอะไรให้อาช่วยก็บอกได้นะ" เสียงทุ้มอบอุ่นกอปรกับใบหน้าขอคนใจดีทำให้ฉันรู้สึกดีเหมือนมีพี่พึ่ง

ใครจะไปรู้...

จากนั้นคุณธนัทซึ่งรู้ว่าฉันต้องทำงานส่งตัวเองเรียนก็เรียกใช้ฉันตลอดจนขึ้นปีสี่ เมื่อถึงเวลาต้องหาที่ฝึกงานที่ให้ประสบการณ์ที่ดี จนฉันได้มาฝึกงานที่นี่ในฐานะนักศึกษาฝึกงานกับบริษัทผู้ผลิตเบียร์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งรับนักศึกษาฝึกงานยากมากจนถึงมากที่สุด

คนดีพระย่อมคุ้มครอง...

หลังจากที่ฉันไปบนบานศาลเจ้าที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ให้ได้ฝึกงานที่นี่ แต่เหตุการณ์มาพีคตอนแก้บนนี่สิ

ฉันล่ะอายเขาไปทั้งตึก

สไบเฉียงของฉันปลิวไสวท่ามกลางเสียงเพลงไทยเดิมดังก้องไปทั้งตึกโดยได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม ภาพของหญิงสาวสไบเฉียงจึงถูกบันทึกไว้ในเฟสบุ๊ค ของอพาร์ทเม้นท์เป็นที่เรียบร้อยนับจากนั้นสืบมา

"สวัสดีค่ะ คุณธนัท" ฉันนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคุณธนัท

"คุณธนัทมีอะไรให้น้ำขิงรับใช้คะ"

"หนูน้ำขิงมาฝึกงานได้กี่วันแล้ว?"

ฉันนั่งนับนิ้วในใจ มองไปที่ปฏิทินตั้งโต๊ะ

"ได้ สิบวันแล้วค่ะ ประมาณสองอาทิตย์ค่ะ"

"น้ำขิงทำงานไม่ดีเหรอคะ" ฉันถามด้วยความสงสัยคิดอยู่ในใจว่า ซวยแล้ว คุณธนัทต้องเรียกมาตำหนิแน่เลยสีหน้าฉันย่ำแย่เต็มทน

"เปล่า..เปล่า.. " คุณธนัทคลี่ยิ้มออกมาสายตาอบอุ่นมากทำให้ฉันคิดถึงพ่อขึ้นมาในทันที

"ตาธามลูกชายอา"

"ค๊ะ! " ฉันกรอกตาไปมาอย่างไม่เข้าใจธามคือใครเพิ่งเคยได้ยินชื่อก็วันนี้

"ธามนิธิ ตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ"

"เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอา เขาจะเข้ามารับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการในวันนี้"

"อาเรียกเขากลับมาจากโรงงานที่นครปฐม"

ฉันนั่งฟังอย่างตั้งใจพอดีกับประตูห้องถูกเคาะอีกครั้ง

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ฉันเหลียวไปมองตามเสียงเคาะนั้นอย่างตั้งใจ

"ผมธามครับ"

"เข้ามาได้..."

ประตูเปิดออกโดยเขาผู้ที่เจอกันในลิฟต์ ตอนนี้ถอดสูทออกแล้วหล่อระเบิดเท่อย่างกับนายแบบ

เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าเนื้อดี น่าจะราคาแพงผูกเนคไทดูมีคลาสฉันประเมินด้วยสายตาของแม่ค้าออนไลน์ สายตาเขายังมองมาที่ฉันอีกด้วยแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นฉันกำลังจะยกมือไหว้ เขาก็มองเลยไปที่คุณธนัทซะงั้น ฉันเลยค้างกลางอากาศเอามือลงแทบไม่ทัน

"สวัสดีครับพ่อ" เขาพนมมือไหว้แล้วนั่งที่เก้าอี้อีกตัวใกล้ๆกัน

"ไง ตาธาม กลับมาเมื่อไหร่ไม่เห็นเข้าบ้านเลย"

ฉันผู้เป็นส่วนเกินพยายามที่จะไม่ฟังพ่อลูกเขาคุยกันทำทีมองไปทางอื่น เก็บมือไว้บนตักอย่างสุภาพ

"ผมออกจากโรงงานเมื่อวานตอนเย็น ถึงคอนโดประมาณสามทุ่มครับ"

เออ...คนรวยนี่ก็แปลกบ้านออกจะหลังใหญ่หลังโต แต่ชอบไปนอนคอนโดกันเนอะ

ขนาดไม่อยากฟังฉันก็จับใจความได้ทุกเม็ด

"เดินทางไกล ผมเพลียเลยไม่ได้เข้าไปหาพ่อครับ"

ฉันแอบเบ้ปากฟอร์มชัดๆก็เห็นอยู่สงสัยไปนอนกับเมียมากกว่า

ทรงนี้...

คุณธนัทระบายใบหน้าอ่อนโยนอีกครั้ง แล้วจึงเข้าเรื่อง

"นี่หนูน้ำขิง" ฮะ! ฉันหันขวับตามเสียงเมื่อถูกพาดพิง

"สวัสดีค่ะ" คราวนี้ฉันรีบพนมมือไหว้ทันที กลัวว่าเขาจะไม่มองอีกเป็นครั้งที่สอง

"เป็นนักศึกษาฝึกงานที่พ่อรับมา"

"ครับ..." ใบหน้าคมยกคิ้วขึ้นมองมาทางฉันอย่างสงสัย

"ให้หนูน้ำขิงไปช่วยงานนะ"

คราวนี้ท่านรองประธานมองมาทางฉันอีกครั้ง ที่นั่งเอ๋อทำสีหน้างง เขาชักสีหน้าไม่พอใจมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง

"ผมไม่เอานักศึกษาฝึกงาน"

"ผมต้องการผู้ช่วยมืออาชีพ" เสียงเขาที่ทุ้มนุ่มในตอนแรกช่างเสียดแทงเข้ากลางใจจนฉันแทบตกเก้าอี้

ใช่น่ะสิ ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน แล้วจะยังไง? ฉันอยากถลึงตาใส่ท่านรองนักแต่ไม่กล้าพอเกรงใจคุณธนัท

รู้สึกได้ว่าบรรยากาศอึดอัดพอสมควร

คุณธนัทผ่อนลมหายใจมือประสานกันบนโต๊ะ

"หนูน้ำขิงเขาเก่ง เนี่ยว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเชียวนะ"

"วันนี้เขายังเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน"

"ต่อไปเขาอาจจะเป็นที่ปรึกษาการลงทุน"

"ที่เราต้องแย่งตัวมาก็ได้" อุตส่าห์ยกแม่น้ำทั้งห้ามาก็แล้ว ท่านรองฯก็ไม่สนองตอบ ทำสีหน้าไม่พอใจใบหน้าหล่อยับยู่ยี่ต่อรองกับท่านประธานด้วยสายตา

คุณธนัทเหมือนจะรู้ว่าฉันอึดอัด จึงพยักหน้าให้ฉันออกจากห้องไปก่อน

ฉันจึงลากขาทั้งสองออกมาด้วยความหดหู่ แต่ก็แอบโกรธเขาอยู่บ้าง

"ชิ!..เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน"

"แล้วไง?" ฉันโกรธเขาที่ดูถูกความสามารถออกจากห้องมาอย่างพาลๆ แล้วนั่งแหมะที่เก้าอี้ ทำปากเบ้ ปัดผมหน้าม้าระบายอารมณ์ หยิบแฟ้มรายงานการประชุมออกมาแล้วพิมพ์อย่างคล่องแคล่วเร่งรีบกดนิ้วลงแป้นพิมพ์แทบพัง

ยังมีงานกองบนโต๊ะอีกมากฉันจึงตั้งสมาธิแล้วใส่ใจกับงานให้สมกับที่คุณธนัทอวย นั่งทำงานไปได้สักพักก็รู้สึกได้ว่ามีเงามืดเงาหนึ่งอยู่ด้านหลังและสายตาอีกคู่มองมา

หางตาฉันทำงานได้ดี

"เก็บของแล้วตามผมมา" เสียงดุ เสียงหนักแน่นจงใจพูดใส่ฉันแต่เพียงผู้เดียว

เอาแล้วไงชีวิตฉัน

ฉันภาวนาในใจนับจากนี้คงต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก ช่วยหนูด้วยนะคะ

พลีสสสส...

สาธุ

"คุณน้ำขิง..."

เขาเรียกอีกแล้ว

"ค้าาาาาา..."

“จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” บทเขาจะมาเอาฉันขึ้นมาก็ใจร้อนเป็นคนคลั่งรักไปได้

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.