ตอนที่ 3 อย่าดื้อ (1)

ดอกไม้ของอานิก 1310 words 2023-07-10 06:15:00

มาลินีกลับเข้ามาในห้องครัวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เนื่องจากยังเจ็บต้นแขน แต่พอเห็นป้าอบและพี่แจ๋วกับพี่ยุวดีกำลังนั่งกินข้าวเที่ยงกันอยู่ในโต๊ะอาหารขนาดสี่ที่นั่ง เธอรีบปรับสีหน้าเป็นปกติพร้อมยิ้มให้ทุกคนซึ่งมองเธอด้วยสายตาแปลกไปจากทุกวัน เธอมองเห็นเครื่องหมายคำถามจากคนเป็นป้า รวมทั้งรุ่นพี่อีกสองคนที่มองมา มาลินีกำลังจะบอกว่าตัวเองไปช่วยงานดนุนัย แต่ยังไม่ทันที่ปากอิ่มซึ่งตอนนี้บวมเป่งเพราะถูกใครบางคนบดจูบแรงหนักได้พูดอะไร ก็มีเสียงใครคนหนึ่งในห้องเอ่ยถามราวกับสงสัยว่าเธอหายไปทำอะไรตั้งค่อนวัน

“คุณนิกให้มะลิไปทำอะไร ทำไมถึงเพิ่งปล่อยให้มากินข้าว?”

“คุณนิกวานให้มะลิแปลเอกสารสำคัญค่ะพี่วดี” มาลินีรีบบอกแล้วพาร่างเล็กเดินมาอยู่ข้างอบรำไพ

“แบบนี้นี่เอง” พี่แจ๋วซึ่งปกติก็เป็นคนชอบคุยอยู่แล้วขยับใบหน้าขึ้นลง ก่อนจะเพ่งมองเรียวปากอิ่ม มาลินีรู้ตัวว่าถูกจับจ้องจากสายตารุ่นพี่สาว เธอรีบเม้มเรียวปากแน่น หากก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยกับคำถามถัดมาของพี่แจ๋ว

“แล้วนี่ปากไปโดนอะไรมา ทำไมดูบวมฉึ่งขนาดนี้”

“เอ่อคือมะลิ…” มาลินีอึกอักคิดว่าจะอธิบายอย่างไรดี แต่ที่แน่ ๆ เธอไม่กล้าพูดเรื่องในห้องหนังสือแน่ ตากลมหรี่ลงหันไปมองผู้เป็นป้าราวกับจะขอความช่วยเหลือ ซึ่งอบรำไพก็พอจะมองออกจึงหันไปเอ็ดสองสาว

“จะมัวซักไซ้อะไรกัน รีบกินข้าวจะได้ไปทำงานต่อ” เสียงป้าอบที่ไม่ดังและก็ไม่เบานัก ทำให้แจ๋วกับยุวดีไม่ถามอะไรอีก แต่ลงมือกินอาหารตรงหน้าอย่างคนที่เชื่อฟังและเคารพอบรำไพผู้เป็นแม่บ้านคนเก่าคนแก่ ในขณะเดียวกันมาลินีที่กำลังอึกอักรีบเข้าไปนั่งข้างผู้เป็นป้าอย่างรู้สึกขอบคุณ ก่อนจะปรายมองอาหารบนโต๊ะแล้วฉีกยิ้มกว้าง

“ข้าวคลุกกะปิน่ากินจังป้าอบ”

“เอ็งอย่าเพิ่งกิน ยกไปให้คุณนิกในห้องหนังสือก่อน แล้วค่อยมานั่งกินนะ” อบรำไพบอกกับหลานสาวเมื่อเห็นว่าไหน ๆ มาลินีก็ยังไม่ได้กินข้าว จึงไว้วานเธอนำข้าวไปให้เจ้านายหนุ่มในห้องทำงานก่อน มาลินีที่เมื่อคิดว่าต้องเข้าไปในห้องนั้นอีกแล้ว ทำให้พวงแก้มร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ในห้องหนังสือ…

“ไปสิเหม่อลอยอะไรของเอ็ง” อบรำไพเห็นหลานสาวนั่งอมยิ้มแล้วจึงออกปากไล่

“ค่ะป้าอบ” มาลินีลุกจากเก้าอี้แล้วรีบยกถาดที่ผู้เป็นป้าเตรียมไว้ให้ดนุนัยตามคำสั่ง จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องครัวแล้วมุ่งหน้าไปทางห้องหนังสือ

“ขอโทษค่ะคุณนิก” มาลินีรีบขอโทษที่ไม่ได้เคาะประตูก่อนและเมื่อเห็นสายตาสองคู่มองมาที่เธอ คล้ายมีแววตำหนิ นั่นยิ่งทำให้เธอทำหน้าไม่ถูก รู้ตัวว่าเสียมารยาทที่เข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน

“ไม่เป็นไร” ดนุนัยเอ่ยเสียงราบเรียบพร้อมวางแฟ้มลงบนโต๊ะ มองสาวน้อยที่หน้าเผือดสีแล้วอดถามไม่ได้

“ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น เป็นอะไรหรือเปล่า?”

“มะลิไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” โคลงหัวเล็กน้อยแล้ววางถาดลงบนโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะถอยออกมา ยกมือไหว้เลขานุการสาวที่นั่งอยู่บนโซฟา “สวัสดีค่ะพี่แหม่ม” เธอเคยเห็นเลขานุการคนนี้นำเอกสารด่วนมาให้ดนุนัยเซ็นที่คฤหาสน์บ่อย ๆ แม้บางครั้งจะเป็นวันหยุดก็ตาม

แหม่มหรือมณีรัตน์รับไหว้เธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ขัดกับแววตาดูเหมือนไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก ซึ่งมาลินีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้น เมื่อไม่มีอะไรแล้วร่างเล็กในชุดเอี๊ยมสีคราม จึงหมุนตัวเดินออกไป

“ยกถาดอาหารออกไปด้วย ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอก” ดนุนัยบอกสาวน้อยที่เตรียมเดินออกไป

“ค่ะ” มาลินีพยักหน้าแล้วยกถาดขึ้นมาอย่างที่เขาบอก ก่อนออกไปตากลมสวยจึงหันไปมองที่คนทั้งคู่อีกหน เห็นคนที่นั่งตรงข้ามกันคุยเรื่องงานไม่สนใจเธอราวกับเธอไม่มีตัวตนในห้อง จึงออกไปอย่างเงียบ ๆ ตรงไปยังห้องครัว

อบรำไพมองจานข้าวคลุกกะปิในถาดที่วัตถุดิบยังอยู่ครบ โดยไม่ถูกแตะต้องแม้สักชิ้นเดียว ชวนให้หัวคิ้วที่เริ่มแซมด้วยสีเทาเลิกขึ้น มาลินีรู้ว่าผู้เป็นป้าจะถามอะไร จึงบอกทุกคนเหมือนที่ดนุนัยบอกเธอ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องครัวกลับเรือนหลังเล็ก อบรำไพมองแผ่นหลังบอบบางที่ดูแสนเศร้าช่างต่างจากรอบแรกที่เธอเข้ามาในห้องครัวจึงไม่ได้พูดอะไร แต่ก็เป็นแจ๋วอีกแล้วที่พูดว่า “ดูมะลิเศร้า ๆ นะป้าอบ”

“มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ อย่าไปสนใจเลย” อบรำไพโบกไม้โบกมือตัดบท ชักจะรำคาญสาวใช้ที่รู้มากไปแล้ว

“แต่…” แจ๋วยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ทว่าป้าอบแทรกขึ้นมาขัดกลางประโยคพร้อมทำตาขุ่นใส่ “ทำงานไปอย่าพูดมาก” สิ้นประโยคที่ได้ยินบ่อย ๆ ยามที่ตัวเองเกิดความสงสัยหรือพูดมาก แจ๋วทำได้แค่พยักหน้าล้างจานต่อไป

ทางด้านมาลินี เมื่อกลับมาที่เรือนหลังเล็กแล้วไม่ได้เข้าไปในห้องนอน แต่เธอเดินเข้าไปในห้องครัว หยิบฝรั่งในตู้เย็นมากินแทนข้าว เมื่อกี้เธอยังรู้สึกหิวข้าวอยู่เลย แต่พอเห็นมณีรัตน์นั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือกับดนุนัย ทำเอาเธอถึงกับหมดอารมณ์กินข้าว ภาพคนทั้งคู่พูดคุยใกล้ชิดสนิทสนม เมื่อครู่ยังติดตาอยู่ ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นมณีรัตน์นำงานมาให้ดนุนัยเซ็นถึงคฤหาสน์ และทุก ๆ ครั้งเธอเห็นพวกเขาคุยกันและใช้เวลาในห้องเป็นชั่วโมงออกจะบ่อย

ไม่เฉพาะเลขาสาวเท่านั้น ความจริงได้ยินและเห็นดนุนัยมีข่าวกับผู้หญิงหลายคน และผู้หญิงแต่ละคนที่ชายหนุ่มควงมีแต่เซเลบบริที หรือไม่ก็ดารานางแบบ และแต่ละคนโปรไฟล์ดีทั้งนั้น บางครั้งเธอยังแอบอิจฉาผู้หญิงพวกนั้นที่ได้เป็นผู้หญิงของดนุนัย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว เพราะดนุนัยคบผู้หญิงไม่เกินเดือน ชายหนุ่มก็เลิกแล้วไปคบคนใหม่ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่เขาเลิกรากับแฟนเก่าที่เป็นถึงลูกสาวนักการทูตเมื่อสี่ปีก่อน

มาลินีกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟาพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อคิดว่าชายหนุ่มกับเลขาสาวอาจมีอะไรมากกว่าลูกน้องกับนายจ้าง แต่ก็ทำได้แค่ทำใจเพราะถึงอย่างไรดนุนัยก็คงไม่มีวันมองเด็กรับใช้อย่างเธออยู่แล้ว จู่ ๆ นัยน์ตาเริ่มรื้นด้วยหยาดน้ำเมื่อความน้อยอกน้อยใจในวาสนาตีตื้นจุกขึ้นมาในอก แต่แล้วก็ต้องรีบกะพริบตาถี่ ๆ ไล่น้ำตาไม่ให้รินไหลเมื่อได้ยินเสียงเรียกดังมาจากนอกบ้าน

***********

ว้าน้องมะลิแอบมาร้องไห้คนเดียวเสียเเล้ว

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.