“ถ้าจะไปก็ไปแต่ตัว อย่าให้เห็นว่ามีอะไรของฌอห์ณติดตัวออกไปแม้แต่ชิ้นเดียวยกเว้นเด็กนั่น!” ฌอห์ณคือแฟนเก่าที่คบกันมานานถึงสี่ปี เขามีฐานะร่ำรวย ครอบครัวมีอิทธิพลและเขาเอาแต่ใจ ฌอห์ณอารมณ์ร้าย ไม่เคยมีสิ่งไหนที่ฌอห์ณอยากได้แล้วไม่ได้ แล้วฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นสิ่งของที่เขาอยากได้ แล้วเขาก็ได้! ฉันเหมือนสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังไว้ในกรงทอง เหมือนถังขยะที่ต้องคอยรองรับอารมณ์เขาทุกอย่าง “เราเลิกกันเถอะ” “กล้าพูดคำว่าเลิกงั้นเหรอ ครีมมีสิทธิ์อะไรมาบอกเลิกฌอห์ณ” “ครีมจะเลิก!” “แล้วคนที่อยู่ในท้องจะเอายังไง?” “ครีมจะเป็นคนเลี้ยงเขาเอง” “แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาเลี้ยงลูกฌอห์ณ?” “คะ…ครีมเลี้ยงได้” “รู้ว่าไปไม่รอดก็อย่าอวดเก่ง กลับเข้าห้องไปเดี๋ยวนี้” “แต่ครีมทนไม่ไหว ครีมจะไม่อยู่กับฌอณห์อีกแล้ว” “ถ้าจะไปก็ไปแต่ตัว อย่าให้เห็นว่ามีอะไรติดตัวออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว!” “ขอให้เราจบกันแค่นี้ อย่าให้ได้เจอกันอีกเลย” “เออ! เลิกก็เลิกดิ”
จากแฟนเก่าสุดรักครั้งวัยเด็ก ที่เคยเลิกรากันไปนานถึงห้าปี แต่พรหมลิขิตชักพาให้เขาสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในสถานะท่านประธานกับเลขา ________________________ “นายเลิกยุ่งกับฉันได้ไหม ขอร้องละ” ริสาหดลำคอถอยหนีด้วยความกลัว เมื่อก่อนเคยโมโหร้ายยังไง ตอนนี้เขายังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน “แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้น!?” “…..” หญิงสาวน้ำตาคลอเมื่อคนตรงหน้าไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ “เมียเก่าของฉันดูน่าสงสารจังเลยนะ” “เลิกแกล้งฉันสักทีได้ไหม จะทำร้ายความรู้สึกฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน?” “พอโดนฉันเอาคืนแค่นี้ ถึงกลับทนไม่ได้เลยเหรอ?” “แล้วต้องให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันชดใช้ยังไงก็บอกมาสิ” “มันชดใช้แทนกันไม่ได้หรอก เพราะฉันเจ็บปวดกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ” “ฉันก็เจ็บปวดไม่แพ้นายนั่นแหละ” “ถ้าเจ็บปวดแล้วทำไมไม่กลับมา ทำไมต้องทิ้งฉันไปแบบนั้น!”
“รามิล!” หญิงสาวร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญคงไม่กล้าแบกหน้ามาหาเขาถึงที่นี่ “มีอะไร?” “ขอคุยด้วยได้ไหม?” “ถ้าจะคุยก็คุยตรงนี้ มีอะไรก็พูดมา” เขาพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปพูดคุยสังสรรค์กับพวกเพื่อนๆ โดยไม่ได้สนใจท่าทางกระวนกระวายใจของเธอเลยสักนิด “ปรางทะ…ท้อง” เสียงบริเวณโดยรอบสงบลงเมื่อสิ้นสุดประโยคนั้น สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าสะอื้นร้องไห้ “แล้วยังไง มาบอกฉันทำไม?” “ปรางท้องกับมิล!”
เธอมองเห็นเขาเป็นแค่ เพื่อนสนิท แต่เขากลับอยากให้เธอเป็นมากกว่านั้น ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่แฟนแต่เป็นเมีย! “ต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมใจอ่อนสักที?” “ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับนาย ฉันรู้สึกกับนายแค่เพื่อนเท่านั้น อย่าเซ้าซี้ไปหน่อยเลย” “แต่ฉันชอบเธอมากนะ” “เดี๋ยวอีกหน่อยนายก็เลิกชอบฉันเองนั่นแหละ” ฉันพูดแบบไม่ใส่ใจ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไบรอันชอบฉันมาตั้งนานแล้ว ถ้าเขาเจอคนที่ดีกว่าสวยกว่าเดี๋ยวก็คงไปจากฉันเอง “ถ้าฉันจะถอย ฉันคงถอยนานแล้ว” “เลิกพูดจางี่เง่าแบบนี้สักทีเถอะไบรอัน มันไม่มีประโยชน์หรอก” “แล้วไอ้เพทายมันดีกว่าฉันตรงไหน ทำไมเธอถึงไปชอบแต่มัน” เขาถอนหายใจพรืดใหญ่คล้ายกับกำลังระงับสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ “เขาดีกว่านายทุกตรงนั่นแหละ” “รู้จักมันดีแค่ไหนกัน ถึงกล้าที่จะพูดแบบนี้” “....” ฉันเม้มปากเงียบเมื่อเห็นสายตาดุดันของคนตรงหน้า เวลาเขาโกรธหรือไม่พอใจอะไรมักจะมีอารมณ์รุนแรงอยู่เสมอ “อย่าให้ฉันหมดความอดทนก็แล้วกัน บอกมันระวังตัวไว้ให้ดี”
ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ชายสองคนในคราเดียว ยิ่งฉันหนี พวกเขาก็ยิ่งตาม! “ไอ้พระรามมันเคยทำกับน้องกูแบบไหน กูก็จะทำกับน้องมันแบบนั้นแหละ!” ปึง! ไดมอนด์วางแก้วเหล้ากระทบกับโต๊ะกระเบื้องอย่างแรงเพื่อระบายความรู้สึก เมื่อนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต “กูขอเวลาสองเดือน กูจะปิดจ๊อบน้องมันให้ได้” “สองเดือนเลยหรอวะ ระดับคุณไดมอนด์แค่เดือนเดียวก็พอมั้ง?” “ไม่มีปัญหา เดือนเดียวก็เดือนเดียวสิวะ” “แล้วมึงอ่ะไอ้ดิน เห็นด้วยกับไอ้มอนด์หรือเปล่า?” เพื่อนชายในกลุ่มหันไปถามแผ่นดินที่เอาแต่นั่งกอดอกเงียบตั้งแต่มาถึง “เอาดิ! ช่วงนี้กูว่าง ไม่มีอะไรทำ” แผ่นดินแบบไม่ใส่ใจมากนัก “ใครที่ปิดจ๊อบยัยนั่นได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ ตกลงไหม?” ไดมอนด์หันไปกอดคอแผ่นดินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเย้ยหยัน “ชนะแล้วได้อะไร?” “สามล้าน!” “กูขอห้าล้าน!” แผ่นดินต่อรองพร้อมกับหันไปจ้องหน้าเพื่อนชาย “ถ้าไม่ได้ห้าล้านก็ไม่เล่น เสียเวลา!” สิ้นประโยคนั้นเขาก็หยัดตัวลุกขึ้น แต่ถูกไดมอนด์คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน “ได้ดิ! ไม่มีปัญหา ห้าล้านก็ห้าล้าน”
เขามองเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นไร้ราคา แต่กว่าจะรู้ว่ามีค่า ก็เมื่อได้เสียเธอไป…. “คุณเสือ หนูเจ็บ!” คนตัวเล็กพยายามสะบัดตัวหนี แต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงเขาไม่ไหว “ปล่อยหนู ปล่อยสิคะ!” “ปล่อยให้โง่น่ะสิ! เอาสิ ร้องสิ ร้องแหกปากดังๆ คนอื่นจะได้รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน!” ใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำเข้าไปใกล้ กระซิบข้างใบหู ยิ่งได้เห็นท่าทางกระวนกระวายของคนตรงหน้าเขายิ่งพอใจ “เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นแหละค่ะ เลิกทำแบบนี้กับหนูสักที” “พูดใหม่อีกทีซิ แน่ใจหรอว่าไม่ได้เป็น?” “…..” ริมฝีปากบางสั่นระริก เมื่อชายหนุ่มใช้มือลูบไล้ที่ใบหน้าเธอเบาๆ “ต้องให้รื้อฟื้นไหม ถึงจะได้กลับมาจำได้ว่าเราเป็นอะไรกัน” “งะ…เงินคุณก็มีตั้งมากมาย จะซื้อผู้หญิงเป็นสิบเป็นร้อยคนให้มานอนด้วยก็ยังได้ แล้วทำไมต้องเป็นหนู?” เธอพูดมันออกมาด้วยความยากลำบาก เพราะไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของคนตรงหน้าได้เลย “ก็คนอื่นมันไม่ได้น่าเอาเหมือนเธอไง!” “…..”
สองหญิงสาวที่เกิดในสลัม มีแม่แท้ๆ เป็นโสเภณีติดการพนัน เลยทำให้เธอตกกระไดพลอยโจน ต้องตกเป็นสมบัติของเสี่ย มาเฟียที่มีนิสัยดิบเถื่อนอย่างไม่ยินยอม เพื่อแลกกับการใช้หนี้ขัดดอกแทนแม่ของเธอ “จะรีบไปไหน งานของเธอยังไม่เสร็จ” เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังเตรียมตัวจะไปจากเขา “ฉันยังไม่พอ ฉันจะเอาเธออีก!” “แต่หนูไม่ไหวแล้ว ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ”
สวัสดีผมฉลาม ลูกแม่โลมากับพ่อคาเตอร์ ผมเป็นคนห้าว ๆ กวน ๆ นิสัยหยาบ ๆ ไม่ค่อยยอมคน เรื่องชกต่อยถึงไหนถึงกัน เพล้ง! โคร้ม! เสียงข้าวของในห้องมันย่อยยับพังลงด้วยมือผม "ไอ้นั่นมันเป็นใคร ให้มันมารับโทรศัพท์มึงได้ไงวะ" "พราวบอกแล้วไง ว่าเขาเป็นเพื่อน!" "เพื่อนคนไหน ชื่ออะไร @$((#"\'??!\'"??" ผมชี้หน้าตวาดยัยเมียตัวดีเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งคอนโด "ถ้าฉลามยังใช้อารมณ์อยู่แบบนี้พราวจะย้ายกลับไปอยู่หอ!" เธอถอนหายใจออกมาแล้วเดินเข้าห้องนอนไป น้ำเสียงเรียบนิ่งเฉยชาแบบนี้ทำให้ผมขนลุกทุกครั้งที่ได้ยิน ผมรีบเดินตามเธอเข้าห้องไป เห็นเธอกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าโดยไม่หันมองหน้าผมเลยสักนิด เฮ้ย! นี่เอาจะ...จริงเหรอวะ จะปะ...ไปจริง ๆ หรอวะ "ฉลามขอโทษนะพราว พราวอย่าไปเลยนะ อย่าทิ้งเค้าไปนะ!" ผมวิ่งไปกอดเธอจากทางด้านหลัง พร้อมก้มลงหอมแก้มเธอหลาย ๆ ที สุดท้ายไอ้เถื่อนอย่างผมก็แพ้ให้เธออยู่ดี
ครืดดด ครืดดด มือหนาเลื่อนไปควานหาสมาร์ตโฟนที่สั่นอยู่บนหัวเตียง ก่อนจะรีบกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นทอฝันที่โทรเข้ามาในขณะที่เขากำลังทำกิจกรรมบนเตียงกับหญิงสาวที่เจออยู่ในคลับอย่างเร้าร้อน เปรมรีบยกมือปิดปากคนตัวเล็กที่กำลังขยับขึ้นลงอยู่บนตักแกร่ง เพราะกลัวว่าเธอจะเผลอหลุดเสียงร้องครางออกมา “ครับฝัน” (ตอนนี้เปรมอยู่ที่ไหนคะ?) “ผมออกมาดื่มกับเพื่อนน่ะครับ” (งั้นฝันไม่กวนดีกว่า คุณสนุกกับเพื่อนต่อเถอะค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้ค่ะ) “ครับที่รัก เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะรีบโทรหาคุณแต่เช้า” (ฝันดีค่ะ) “เช่นกันครับ” ติ๊ด! ทันทีที่ทอฝันวางสายตา เกมเร้าร้อนบนเตียงก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยมีหญิงสาวเป็นฝ่ายคุมเกม มือสากเลื่อนไปบีบเคล้นที่เต้าอวบทั้งสองข้างด้วยความพอใจ ก่อนจะกระแทกเอวสอบสวนกลับคืน ทำเอาคนตัวเล็กถึงกลับเบ้หน้าออกมาด้วยความจุก “เมียโทรมาหรอคะ?” “อืม” “แล้วเขารู้หรือเปล่าว่าเรากำลังเอากันอยู่” “…..” ตึกตัก! เสียงฝีเท้าของทอฝันกับบีน่าดังขึ้นอยู่เป็นระยะ หลังจากที่วางสายจากชายหนุ่มเสร็จ เมื่อเธอตัดสินใจมาเขาที่คอนโด ทอฝันไม่ได้ขึ้นเครื่องบินไปแม่ฮ่องสอนแต่อย่างใด เธอแค่โกหกทุกคนเพื่ออยากพิสูจน์ในเรื่องที่คลางแคลงใจมาโดยตลอด “ใจเย็นก่อนนะฝัน” บีน่าดึงชายเสื้อของเพื่อนสาวที่เดินนำหน้า เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของทอฝัน “ฉันใจเย็นที่สุดแล้วบีน่า” ทอฝันตอบกลับ “แกคิดดีแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้?” “…..” “ถ้าเปรมเขาไม่ได้ทำแบบที่แกคิด แล้วแกจะทำยังไง?” บีน่าตัดสินใจถามทอฝันอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนสาว บีน่ารู้ดีว่าทอฝันคงรับไม่ได้ถ้าเกิดรู้ว่าชายหนุ่มที่รักและไว้ใจมานานเกือบสิบปีหักหลังอย่างเลือดเย็น “ฉันก็จะตอบตกลงแต่งงานกับเขา” “แล้วถ้าเขานอกใจแกล่ะ?” ทอฝันเงียบไป พร้อมกับความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนนี้เธอยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าชายหนุ่มคงไม่มีวันที่จะทำกับเธอแบบนั้น “ไม่มีใครรับได้หรอกนะ แต่ฉันก็ทนไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าเปรมเขานอกใจฉันจริงๆ” “แล้วแกจะทำยังไง ถ้าเกิดว่าเปรมเขาทำแบบนั้นจริงๆ?” “ฉันมะ…ไม่รู้ ตอนนี้ฉันได้แต่ภาวนาขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้น” เพียงแค่คิด น้ำตามันก็ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง ทำเอาบีน่าถึงกลับจะร้องตามด้วยความสงสารจับใจ “โถ่! ฝัน” หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเมื่อได้มาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องของชายหนุ่ม ทอฝันก้มลงมองกุญแจห้องที่อยู่ในมือ ด้วยแววตาสั่นระริก เพียงแค่เธอไขเข้าไป ความจริงที่สงสัยก็จะปรากฏ… แกร้ก! ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบๆห้องของชายหนุ่มทันทีที่เปิดประตูเข้ามา มันจะมีก็แต่ความมืดมิดและความเงียบสงัด ร่างบางพยายามปรับสายตาเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับความมืดดำ ก่อนจะเห็นว่าทุกอย่างที่อยู่ในห้องยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “…..” “ไม่มีใครอยู่ ฉะ…ฉันว่าเรากลับกันเถอะ” บีน่าสะกิดเเขนเพื่อนสาวด้วยความกังวล แต่ดูเหมือนว่าทอฝันจะมีความมุ่งมั่นมากกว่าที่เธอคิด “กลับเถอะนะฝัน คุณเปรมเขาคงไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก” “เดี๋ยวฉันขอเข้าไปดูในห้องเพื่อความแน่ใจก่อนนะ” “งั้นฉันจะรอแกอยู่ตรงนี้” “…..” แกร้ก! ทอฝันเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนที่คุ้นเคย ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ทันทีที่ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องเข้ามาปะทะที่หน้า ร่างกายของเธอก็รู้สึกชาวาบไปในทันที ร่างกายมันแข็งทื่อไปชั่วขณะ ถึงแม้ว่าภายในห้องจะมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร แต่เธอกลับรู้สึกว่าภาพที่อยู่ตรงหน้ามันชัดเหลือเกิน ภาพที่คนทั้งสองกำลังเริงรักกันอย่างเร้าร้อนอยู่บนเตียงที่เธอเคยนอน แล้วคนที่ทำเรื่องแบบนั้นก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นคนที่เธอเรียกว่าแฟน! “ปะ…เปรม!”
หมับ! ใบหน้าน้อยๆ ของฉันถูกมือหนาบีบเข้าอย่างแรงด้วยความโกรธเคือง “หรือคิดจะจับฉัน โดยการใช้วิธีโง่ๆ แบบนี้? บอกเลยว่าไม่ได้ผล ฉันไม่มีวันยอมรับเด็กนั่น!” เขาใช้คำพูดว่าดะ...เด็กนั่นเหรอ! “...” ฉันเงียบไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากด่า แต่เขาเลวเกินกว่าที่ฉันจะสรรหาคำด่ามาได้ “จัดการซะ ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีลูกตอนนี้ เธอคงรู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง” เงินแบงก์พันปึกหนาจำนวนหนึ่งถูกยัดใส่มือฉันแบบไม่เต็มใจ ถึงเขาจะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ฉันก็รู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร เขาต้องการที่จะให้ฉันทำแท้งเอาเด็กออก เขากำลังบีบบังคับให้ฉันฆ่าลูกตัวเอง... “พี่มันเลว เลวที่สุด!” “...” “พี่กล้าให้นับทำแบบนี้ได้ยังไง เขาก็เป็นลูกพี่เหมือนกันนะ” ฉันทรุดนั่งลงบนที่นอนทั้งน้ำตา แค่สภาพจิตใจตอนนี้ก็ย่ำแย่มากพออยู่แล้ว “....” “นับไม่กล้า นับไม่ทำ!” “งั้นก็ปิดปากของเธอซะ! อย่าให้ใครรู้ว่าเด็กนั่นเป็นลูกของฉัน” ปึ้ง! ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อถูกคนตัวโตปิดประตูห้องใส่หน้าอย่างแรง ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับฉันนัก....
“พี่หิรัญ นะ...หนูขอร้อง ถ้าพี่ยังรักหนู พี่หยุดได้ไหม” ร่างบางอ้อนวอนทั้งน้ำตา เธอพร้อมจะให้อภัยเพียงแค่เขาเอ่ยปากว่าจะหยุด “หนูพร้อมจะเริ่มต้นใหม่ จะลืมเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาถ้าพี่สัญญาว่าจะหยุด” “พี่มีแค่หนูคนเดียวได้ไหม” “โอเคค่ะ นะ...หนูเข้าใจทุกอย่างแล้ว ฮึกก~” นิรินก้มหน้ากลั้นเสียงสะอื้นร้องไห้ราวกับจะขาดใจอยู่ตรงหน้า เมื่อไม่มีคำตอบหรือคำพูดใดๆ หลุดจากปากของหิรัญ เพียงแค่นั้นเธอก็รู้ได้ทันที ว่าหิรัญนั้นไม่เคยรักเธอเหมือนที่เธอรักเขามาโดยตลอด “ถ้าหนูก้าวขาออกไปจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว เราเลิกกัน!” “พะ...พี่คงอยากเลิกกับหนูมากใช่ไหม ถึงได้ชอบพูดกับหนูแบบนี้” เธอพูดด้วยหัวใจที่แหลกสลายไม่ว่าจะทะเลาะหรือมีปัญหากันกี่ครั้ง หิรัญมักจะเป็นฝ่ายบอกเลิกเธออยู่เสมอ “ถ้าพี่ต้องการแบบนั้นก็ได้ค่ะ เราเลิกกัน” _____________________ “ถึงจะบอกว่าเลิกกันไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะยอมให้หนูไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นได้นะ” “แล้วถ้าหนูจะมีแฟนใหม่มันผิดตรงไหนเหรอคะ?” เธอถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อหิรัญยังคงแสดงท่าทีเหมือนกับหวงเธอนักหนาทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือเขาแค่อยากจะเอาชนะเธอเหมือนที่ทำมาโดยตลอด “พี่เป็นคนบอกเลิกหนูก่อน จำไม่ได้เหรอคะ?” ใบหน้าคมคายขบกรามแน่นเมื่อเห็นท่าทางอวดดีของคนตรงหน้า เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ “ไหนบอกว่ารักพี่มากไง” “นั่นมันในอดีตค่ะ แต่ตอนนี้หนูตาสว่างแล้ว”
(ใหญ่ อัศดิณย์) ใครจะรู้ว่าเบื้องหน้าของเขาที่สร้างภาพว่าเป็นผู้ชายแสนดี จะมีเบื้องหลังที่แสนโหดร้าย แบบที่ทุกคนคาดไม่ถึง “ใหญ่” ชายหนุ่มคาสโนว่า มีหน้าตาหล่อเหลาที่ดึงดูผู้หญิงมากมายให้เข้าหา เขามักนอนกับผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า แต่แล้วกับมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาต้องนอนกับเธอเพียงแค่คนเดียว  (เรยา) หญิงสาวกำพร้า นิสัยอ่อนโยน เข้มแข็ง ยอมทำงานหนัก ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมารักษาน้องชายที่ป่วยหนัก แต่ในเมื่อโชคชะตากลับเล่นตลกและไม่ได้มีทางเลือกให้เธอมากมาย แถมยังมีชีวิตของน้องชายเป็นเดิมพัน มันจึงทำให้เธอเลือกเดินทางผิดยอมขายตัวเป็น “เมียบำเรอ” ให้กับปีศาจร้ายซาตานอย่างเขา แต่เมื่อรู้สึกตัวมันก็สายเกินไป...
"ฮึกกก ฮือออ ยัยบ้า! เธอมาข่มขืนฉันทำไม" นี่คือเสียงของไอ้ผู้ชายเมื่อคืนที่ฉันไปพลาดท่ามีอะไรกับเขาในห้องน้ำผับ แล้วใครจะไปรู้ว่ามันท่าทางดิบ ๆ ห่าม ๆ ดันซิง แถมยังไม่เคยผ่านมือหญิงใดมาก่อน งานหยาบก็เลยตกมาที่ฉันอย่างห้ามไม่ได้! เพราะมันดันเป็นคนที่บ้าเข้าขั้น ป่าเถื่อน ดิบหยาบจนฉันปวดหัว "เรื่องเมื่อคืนฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ" ฉันพูดออกไปด้วยความรู้สึกผิดจริง ๆ ก็อีพวกเพื่อนเวรมันวางยาแกล้งฉัน ไม่งั้นฉันก็คงไม่ต้องมาข่มขืนอีตานี่หรอก "ไม่ให้อภัยเว้ย มึงได้กูแล้ว ถ้ามึงทิ้งกูมึงตาย! " มันส่งเสียงสะอื้นกระซิก ๆ ตอบกลับมา แต่สายตาของฉันดันหันไปเห็นกระบอกปืนสีเงินมันวาวที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังของมัน
ฉันเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกคลาสเหวี่ยงใส่ผนังอย่างแรงทันทีที่กลับมาถึงห้อง “นายเป็นบ้าอะไรของนาย ปล่อยฉัน!” ฉันเหวใส่คนตรงหน้าด้วยความโมโหที่เขาไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลย “ขนาดโดนฉันเอาทุกวัน เธอยังคันไปหาผู้ชายคนอื่น หรือว่าลีลาของฉันมันไม่เร้าใจ” เพียะ! ฉันฟาดฝ่ามือเข้าไปที่ใบหน้าของคลาสเต็มแรง โดยที่ไม่รอให้เขาพูดจบประโยค “หยุดพูดจาทุเรศๆ แล้วไปตั้งสตินะคลาส” “...” คนตัวโตหยุดชะงัก พลางขบกรามกำมือแน่นอย่างทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ฉันคลาสคงสวนคืนกลับมาแล้ว “ฉันกับขุนพลเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” “ทำไมจะไม่ผิด มันผิดตรงที่เธอมีฉันเป็นผัวแล้วยังไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นไง!” ฉันเบือนหน้าหันหนีเมื่อถูกเขาตวาดใส่หน้าด้วยเสียงดังลั่น เขากำลังหึงจนหน้ามืดตามัว โดยไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น “แต่นี่มันสังคมของฉัน มันจะแปลกตรงไหนถ้าฉันจะมีเพื่อนผู้ชาย!?” “แต่ฉันไม่ให้มี” คลาสกระชากคอเสื้อนักศึกษาฉันให้เข้าหา สายตาของเขามันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ไม่ว่าจะสถานะอะไรก็ไม่ให้มี ฉันหวงของฉัน ไม่เข้าใจหรือไงวะ!” “...” ฉันได้แต่ยืนหน้าถอดสีให้กับความคิดประหลาดๆ ของเขา ขนาดเขามีเพื่อนผู้หญิง มีสังคมมากมาย ฉันยังไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเลยสักครั้ง “ฉันว่าวันนี้เราคงคุยไม่รู้เรื่องแล้ว นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ รอให้ใจเย็นแล้วค่อยมาคุยกัน” ฉันพยายามพูดเพื่อให้คลาสใจเย็นที่สุด แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม “คิดจะไล่ฉัน มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรือไง!”
ไทค์ - Tide ใคร ๆ ก็บอกว่าผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจรักใครไม่เป็น \'มันไม่ใช่เรื่องจริง\' ผมรักเธอแล้วก็ไม่มีวันที่จะเลิกรักเธอได้ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเธอคนนั้นไม่ใช่ \'เมียของเพื่อนผม\' จนในวันนึงผมได้ทำสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตลงไป \'มึงก็รู้ว่าพราวเป็นเมียกู แต่มึงก็ยังทำ!\' เสียงของไอ้ฉลามตวาดร้องใส่ผมดังลั่นด้วยความโมโหเพราะมันรู้ความจริงว่าผมคิดจะข่มขืนเมียมัน! \'อืม กูผิดเอง กูขอโทษ\' จี - Gee เขาเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก ไม่ว่าฉันจะรักเขาทำเพื่อเขามากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่เคยรับรู้ เขายังคงรักแต่เธอคนนั้น รักมากเกินกว่าที่ฉันจะทลายกำแพงหัวใจน้ำแข็งของเขาได้ ฉันมันเป็นได้แค่คนแก้ขัดสำหรับเขา แต่ไม่เป็นไร \'ฉันยอม\' "ไปรอที่ห้อง เดี๋ยวฉันไปเอา!" เขากระซิบข้างหูฉันพร้อมเน้นตรงคำว่า \'เอา\' ซึ่งฉันรู้คำหมายของมันดีว่าเขาต้องการอะไร ยิ่งผ่านไปนานแค่ไหน ฉันยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นทวีคูณ จนฉันทนไม่ไหว ทนไม่ไหวอีกแล้ว และครั้งนี้ \'ฉันไม่ยอม\' "พอสักที ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว!" ฉันระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างเหลืออด ฉันจะไปให้พ้นจากเขา ไปให้พ้นจากที่นี่ "ถ้าจะไปจากฉันก็ทนให้ไหวแล้วกัน!!" เขาพูดแค่นั้นก่อนจะทำอะไรบางอย่างกับฉันดังเช่นคนหยาบคนป่าเถื่อน... "อึกกกก อื้ออออ พะ....พอแล้วไทค์ ฉันไม่ไหวแล้ว!"
ชายหนุ่มที่เติบโตมาด้วยทรัพย์สมบัติและบริวารมากมาย แต่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว ตั้งแต่เด็กจนโตเขามักจะได้สิ่งที่ต้องการอยู่เสมอโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่กับเธอ “เป็นข้อยกเว้นอย่างเดียวที่เขาไม่มี” เกมเดิมพันที่มีผู้เล่นถึงสามคน ใครจะเป็นคนแพ้ แล้วใครกันที่จะเป็นผู้ชนะ “รางวัลของผู้ชนะก็คือหัวใจของคนแพ้” **1ไลก์ 1คอมเมนท์ = 1ล้านกำลังใจ** คำเตือน!! เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง บุคคลที่อยู่ในรูปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิน เนื้อเรื่อง 20+ โปรดปั่นจักรยานในการอ่าน อ่านเพื่อความบันเทิงเริงร่าน ห้ามคอมเมนท์ด้วยคำหยาบคายทุกกรณี
เหมือนไม้หน้าสามฟาดลงกลางหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า สำหรับเขาคงมองว่าฉันเป็นผู้หญิงหากินแบบนั้นสินะ แต่ที่ฉันยอมเป็นเพราะฉันรักเขามาก แล้วก็รักมากพอที่จะยอมเจ็บซ้ำซากอยู่แบบนี้ “เมื่อไหร่หมอจะยอมบอกคนอื่นว่าเราเป็นอะไรกันสักที” ฉันตัดสินใจพูดในสิ่งที่อยากรู้ออกไป “เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” “ฉันว่าพูดชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วนะ” “…..” “ฉันไม่มีสถานะอะไรให้เธอทั้งนั้น” “แล้วหมอจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ น่ะเหรอ ถ้าอยากก็มาหา พอได้แล้วก็ไป หมอจะทำแบบนี้กับอันไปอีกนานแค่ไหน?” “ก็จนกว่าฉันจะเบื่อไง” “โอเค อันเข้าใจแล้ว” “…..” “หมอไม่รู้หรอกว่าคนที่คอยวิ่งตามขอความรักมันเหนื่อยขนาดไหน แล้วตอนนี้อันก็เหนื่อยมาก เหนื่อยจนวิ่งตามหมอไม่ไหวอีกแล้ว”
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.