“ถึงอาจะไม่กินเด็ก แต่เห็นว่าหนูคนนี้เด็ด อาเลยจะกินอย่างนั้นเหรอคะ?” “เสืออย่างอา ไม่กินผู้หญิงซ้ำหน้า” “ทำไมคุณอาถึงเรียกตัวเองว่าเสือล่ะคะ ... ทั้ง ๆ ที่ก็เอาไม่เลือกฤดูเหมือนกับหมา หนูว่าไม่น่าจะใช่เสือนะ” “อารียา!” “หึ” เมื่อถูกเด็กในปกครองถอนหงอก คนที่เป็นผู้อุปถัมภ์จึงเดือดดาลเพราะรู้สึกเสียหน้า อารียายกยิ้มมุมปากอย่างเหยียดหยาม เมื่อเห็นนิโคลไลนั้นหน้าเสีย เธอถึงเกิดพอใจกับสิ่งที่ทำร้ายจิตใจของเขาได้ เพราะเขานั้นทำเธอเจ็บก่อนด้วยคำพูดที่ดูถูก แม้เธอจะอาศัยใบบุญของพ่อเขาจนเรียนจบ แต่เธอก็มีหัวใจเช่นกันที่จะรู้สึกเจ็บปวดแม้เพียงคำพูดที่เสียงแทงหัวใจ อารียา - หญิงสาวผู้ที่มีความมั่นใจ ไม่เคยยอมคน เธอสำนึกในบุญคุณของคนที่เกื้อกูลเธอจนได้ดี และได้มีการศึกษา แต่ว่าเมื่อผู้มีพระคุณของเธอได้ลาลับจากโลกใบนี้ไป เธอจึงได้มาอยู่กับคนใจร้ายที่ไม่คิดแยแสเธอ เพียงเพราะว่าเขาทำตาม 'คำสั่ง' ของพ่อที่สั่งลาไว้ นิโคลไล ฟรานเดเรก – ลูกครึ่งไทย-รัสเซีย ผู้ที่ต้องอุปถัมภ์อารียาต่อจากพ่อของเขา เขาได้รับ 'คำสั่ง' ให้ดูแลเธอ พร้อมทั้งสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อที่สั่งการไว้ ให้เธอได้ทำงานช่วยเหลือเขา เมื่อเธอนั้นเรียนจบระดับปริญญาตรี แต่ผู้ชายเช่นเขาจะยอมญาติดีกับผู้หญิงอย่างเธอหรือไม่ เพราะเขาก็ไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครมาควบคุมหรือวุ่นวาย เเละผู้ชายเช่นเขาก็ไม่ใช่ที่จะยอมใครง่าย ๆ เช่นกัน รักลับสัมพันธ์สวาท พลอยแก้ว
สวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้อัปเดตลงแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งไรท์เป็นนักเขียนมือใหม่ หากว่าเกิดความผิดพลาดประการใดในงานเขียนต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูง สำหรับนิยายเรื่อง 'สามี' เป็นนิยายแนวน่ารักสดใส โรแมนติก ผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกคนรักทอดทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมกับลูกน้อย เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากเลี้ยงลูกมาเพียงลำพังด้วยความพยายาม แต่แล้ววันหนึ่งก็มีนักศึกษาฝึกงานเข้ามาในบริษัท ลูกสาวของเขาที่กำลังอยู่ในวัยช่างพูดเกิดถูกชะตา จนเรียกเธอว่า 'แม่' นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นต่อไป ยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ---------- พลอยแก้ว Ploykaew
การถูกบังคับให้ร่วมชายคาเพื่อรับผิดชอบต่อการสูญเสีย เพราะเธอไม่สามารถที่จะรับผิดชอบต่อความผิดนั้นได้ ความลับที่เขาไม่คิดจะเปิดเผย เธอจึงยอมจำนนต่อคนที่ยื่นมือช่วยเหลือ...อยู่ด้วยความเจ็บปวดเหมือนถูกเหยียบย่ำไร้ค่า ศักดิ์ศรีที่เคยมีถูกตีตราในราคาที่แสนต่ำ ถูกกระทำย่ำยีเป็นของลับที่เหมือนไร้หัวใจ แต่บางครากลับมีเสน่หาในความรู้สึก การถลำลึกเช่นนี้จะเป็นทางออกหรือทางตันของคนอย่างเธอผู้ที่สง่างามดุจดั่งชื่อ ‘เรนิตา’
...หัวใจที่มี ถ้าคิดจะมีรักกับใครทั้งที ต้องทุ่มให้มันทั้งใจ... "เมียมึงมาตาม!" "มึงต่างหากด็อจที่เมียกู" "เหอะ!" ("ศิลาต้องรับชอบริกะนะคะ") "หุบปากริกะ...กูจะคุยกับเมียกู" ("ริกะก็เมีย ได้ยินไหม ว่าริกะก็เมียศิลาเหมือนกัน!") "แย่งผัวชาวบ้าน ก็ได้โปรดอย่าด้านโชว์เหนือ" ("หึ....แล้วไงล่ะ?") "ก็เพราะไอ้เวรนี่...มันเป็นของเหลือจากกูไง"
"เมื่อมีความรักแล้วมันต้องเจ็บ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า เจ็บแล้วทำไมยังรัก" ** นิยายเรื่องนี้ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามไม่ให้ผู้ใดละเมิด คัดลอก เลียนแบบ ดัดแปลง ทำซ้ำหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยการเผยแพร่หรืออ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนมีโทษสูงสุดตามกฎหมาย
'มีดีแค่เอว นอกนั้นเลวหมดเลย' ***** เชคฮ ดรูฟ บราฮิม อาร์นาฟ การ์ซานฟา - ชายในฝันของสาว ๆ ที่ใคร ๆ ก็หมายตาจ้องจะเอา! แต่ด้วยนิสัยที่นิ่งเรียบ พูดน้อย และเย็นชาดุจน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาสูง จึงยากที่ใครจะได้เข้าหา และหากต้องตาใครจริง ๆ หญิงคนนั้นเขาต้องได้ครอบครองแม้จะต้องทำด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อให้ได้มา แม้วิธีนั้นจะต่ำช้าก็ตาม นิสัยนี้ที่ได้มาทุกกระเบียดนิ้วจากบิดาของเขา ซีน เดือนเมษา- หญิงสาวที่ทำให้โลกทั้งใบนั้นดูสดใส คนที่เป็นเหมือนรอยยิ้มให้ใครหลายคน ความมีเสน่ห์ที่ใครได้อยู่ใกล้เป็นต้องหลงใหล แค่เพียงเห็นรอยยิ้มแรกของเธอ จนหญิงสาวด้วยกันนั้นต้องอิจฉาทั้งรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมันสมองที่อัดแน่นด้วยความเฉลียวฉลาด และจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของเธอนั้นคือ พูดมาก!
รุ่นพี่ที่แอบมีใจหายไปจนลืมหน้าคร่าตา แล้วเธอจะเลือกใครในเมื่อพวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมกันตั้ง 3 คน *นิยายเรื่องเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ชื่อของตัวละคร บทบาทและหน้าที่ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลอื่นใดเป็นสำคัญ เนื้อหาในเรื่องมีความล่อแหลม เรื่องเพศ คำหยาบ และพฤติกรรมของตัวละครบางส่วนที่รุนแรง เหมาะกับผู้อ่านที่บรรลุนิติภาวะและแยกแยะได้เท่านั้น*
เมื่อรักมันทำให้เขานั้นต้องร้ายกาจจากคนที่เคยอ่อนโยน ใจดี กลายมาเป็นคนนิ่ง โหดร้าย ไม่สนใคร แข็งกระด้าง ดิบ เถื่อน ไร้ซึ่งความปรานี หล่อและรวย จนทุกคนขนานนามเขาว่า “ซาตานหน้าหล่อ” มาเฟียผู้มีอำนาจและอิทธิพลเหนือสุดในแถบเอเชียและมีศัตรูรอบด้าน เพราะความเจ็บปวดใจในอดีตที่ผ่านมามันทำร้ายจิตใจให้เขานั้นกลายเป็นอีกคน เพื่อปิดกั้นความรู้สึกของตัวเอง หัวใจที่มันตายด้านเขามองผู้หญิงทุกคนในแง่ลบ คิดว่าผู้หญิงทุกคนซื้อได้ด้วยเงิน! จนวันหนึ่งการพบเจอเธอโดยบังเอิญในเมืองกรุงหญิงสาวที่หน้าตาจิ้มลิ้ม น่ารัก ดูไม่มีพิษภัย “พลอยฝัน” หญิงสาวผู้มีความอ่อนโยน คนธรรมดาคนหนึ่ง ครอบครัวเธอไม่ได้มีชื่อเสียง เกียรติยศในสังคม หรือเงินทองมากมาย เธอเป็นคนใส ๆ ไม่ทันคน ด้วยใบหน้าที่น่าหลงใหลมีเสน่ห์จนสะดุดตาซาตานอย่างเขา และด้วยเหตุสุดวิสัยจำเป็นบางอย่างที่ทำให้เธอนั้นต้องเข้าไปอยู่ในบ้านของเขา บ้านของซาตาน แล้วเธอจะพบกับอะไรบ้าง?
แม้เธอจะดูสดใสและไร้เดียงสา แต่ใครจะรู้ว่าเธอนั้นแอบซ่อนความเร่าร้อนไว้ในกาย "ใจแข็งดีนักระวังเจอน้องอันดาอ้อนรักแล้วจะใจละลาย" "พี่ไม่คิดจะสนใจน้องอันดาสักนิดเลยเหรอคะ...น้องอันดาตามพี่นานแล้วนะ" "ฉันไม่สนใจเด็กอย่างเธอหรอก ไป ๆ ถอยไปฉันจะไปเรียน" "พี่ใจร้ายกับน้องอันดามากเลยนะคะ" "น่ารำคาญจริง ๆ" "รำคาญก็ช่างพี่สิคะ งั้นวันนี้น้องอันดาไปก็ได้ วันหน้าจะมาอ้อนใหม่นะคะ จุ๊บ!" "ยัยเด็กหน้าด้าน!" "ขอบคุณที่ชมค่ะ บ๊ายบาย แล้วน้องอันดาจะซื้อเครปเย็นมาฝากใหม่นะคะ"
'คนหนึ่งลบลืม แต่อีกคนยังจดจำฝังใจ' "อะไรที่ฉันไม่อยากให้ได้ยิน แล้วเสนอหน้ามารับรู้รับฟัง ไม่ว่าใคร!! คนของใคร!! ฉันก็ไม่ไว้หน้า!!...จำเอาไว้!" ผมเดินเข้าไปใกล้ฟาส แล้วบีบต้นแขนสองข้างของเธอ จ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ แววตาของผมสื่อได้ชัดเจนว่าน่ากลัวแค่ไหน เพราะผมเห็นดวงตาของฟาสมันสั่นระริก ตัวของเธอสั่นเหมือนกับกลัวผม แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่ผมต้องการ เพราะคนอย่างฟาสนั้นปากพล่อย จากบุคลิกที่ผมสัมผัสได้ ความลับของผมจะไม่เป็นความลับ หากคนอย่างผู้หญิงที่ชื่อฟ้าสิตางคุ์ได้ยิน "อ๊ะ!! ผะ แผ่นดิน" ผมสะบัดเธอจนเธอเซถลา แววตาของเธอที่มองมายังผม มันเหมือนกับเธอจะร้องไห้ แล้วถามว่าผมสนใจไหม ตอบเลยว่าไม่! ผมเดินหันหลังมานั่งเก้าอี้ แล้วจ้องมองหน้าฟาสที่ตอนนี้ในดวงตาเธอเอ่อคลอด้วยน้ำตา เธอลูบต้นแขนของตัวเองไปมา แล้วยืนนิ่งมองหน้าผม "ได้ยินอะไรบ้าง" ผมเอ่ยถามเสียงเรียบ "......" เธอเงียบแล้วหันหน้าหนี "ไม่มีปากหรือไง!" ผมเริ่มใช้เสียงหนักขึ้น เมื่อฟาสนั้นไม่ยอมตอบ ผมแค่อยากรู้ว่าเธอได้ยินเรื่องราวมาน้อยแค่ไหน "ไม่ได้ยิน" เธอตอบเสียงเบา "อย่ามาโกหก!!" ผมตะเบ็งเสียงแข็ง เมื่อเธอนั้นปฏิเสธ เพราะผมมั่นใจว่าเธอต้องได้ยินอะไรมาแน่ ๆ "คุณเปลี่ยนไปมากเลยแผ่นดิน" "ไม่ได้สนิทกันขนาดจะมาเรียกชื่อเฉย ๆ" ผมพูดโต้ตอบทันที เธอพูดอย่างกับรู้จักผมดีอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ผมเพิ่งจะรู้จักเธอตอนที่แม่ของผมแนะนำ "........" เธอยังคงยืนเงียบเหมือนเดิม ซึ่งมันเริ่มจะทำให้ผมนั้นโมโหยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งที่ผมพยายามควบคุมมันไว้ "อยากตายหรือไง?"
ภายใต้ชายคาของกรงขัง หัวใจดวงน้อยของจัสซีเนียถูกย่ำยีด้วยแรงราคะของความเคียดแค้น ตัวแทนแรงอาฆาตที่เธอไม่ได้กระทำ แต่ต้องรับผลกรรมแทนผู้เป็นพี่อย่างจำยอม.....ด้วยฝีมือของราชาโจร! "ก็แค่เชลยไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น" "แต่ฉันก็มีหัวใจนะคะ...ฉันมีความรู้สึกและเจ็บปวดเป็น" "เป็นเช่นรึ? ฮึ! ความรู้สึกของเธอไม่ได้มีผลสำหรับเรา.,." "หยาบช้าสิ้นดี!" "เทียบเท่าไม่ได้กับสิ่งคาว ๆ ที่พ่อเธอทำ" "พวกแกมันระยำ!" "เราทำได้มากกว่าจุดไฟเผาทั้งเป็นอีก...หรือเธออยากจะลอง"
เกริ่น..... "อย่าคิดหนีไปจากที่นี่...ถ้าไม่อยากเจ็บตัว" เสียงเหี้ยมของชายมาดขรึมอย่างอานัสเอ่ยขึ้นพร้อมชี้หน้าอย่างข่มขู่ "ท่านจะฆ่าก็ฆ่าเลย สิ้นลมหายใจฟาตินคนนี้จะได้หมดทุกข์ ไร้ความทรมาน! อึก ฮึก ฮึก" ฟาตินตะเบ็งเสียงกร้าวโดยไม่คิดกลัว เมื่อตั้งแต่ที่ตัวเองมาอยู่ที่นี่ด้วยเม็ดเงินที่ถูกเขาซื้อมาย่ำยี มันทำให้หัวใจของเธอเจ็บช้ำระบม ร่างกายทุกข์ระทมขมขื่น แรงจะฝืนสู้ต่อแทบไม่มี ศักดิ์ศรีหดหายโดนทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ "อย่าปากดีให้มาก...เธอมันก็แค่ผู้หญิงในฮาเร็มที่ฉันซื้อมาสนองตัณหาเท่านั้น...อย่าได้คิดมีสิทธิ์มาต่อรอง แม้กระทั่งความตาย!!" ร่างกายหนาปรี่ประชิดตัวฟาติน มือใหญ่บีบปากของเธอจนเจ็บร้าว ดวงตาคมเเข็งกร้าวดุดัน จ้องมองหน้าที่แปดเปื้อนด้วยคราบน้ำตาอย่างเฉยชา แต่คนร่างเล็กที่โดนทำร้ายเจ็บปวดเจียนตาย ร่างกายที่บอบช้ำอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดเมื่อโดนสัมผัสด้วยแรงชาย "จะทรมานกันไปถึงไหน!" ฟาตินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาโตเอ่อล้นด้วยม่านน้ำตาสีใส เธอไร้แล้วซึ่งหนทางจะหลีกหนีจากซาตานในร่างมนุษย์เช่นเขา เสมือนนักโทษที่รอถูกลงอาญาด้วยตัณหาในกายชาย "ตลอดชีวิต!"
เขาเป็นคนที่เธอตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่แล้วมันกลับพลิกผัน เมื่อเธอได้มารับรู้ว่าเขานั้นเป็นฆาตกร ***** “พี่รบใจเย็น ๆ นะอรกับแม่อธิบายได้” เอมอรที่เริ่มเห็นเหตุการณ์ไม่ค่อยดี เธอเดินเข้าไปจับแขนของพี่ชายปรามไว้ “อธิบายอะไรก็พูดมาเส่!” ความอยากรู้ในเรื่องราว ทำให้เขาตวาดน้องสาวเสียงดังลั่น ตอนนี้ก็เริ่มมือสั่นต้องกำมือให้แน่นจนเส้นเลือดขึ้นตามลำแขน “อรเล่าเองค่ะแม่...พี่รบใจเย็น ๆ โอเคไหม” เอมอรบอกแม่ที่ตอนนี้น้ำตาไหลริน ก่อนจะหันไปลูบหลังพี่ชายแล้วพาไปนั่งยังเก้าอี้ “คือว่า...คือ...” “อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ ไม่เล่ากูจะเผ่าแม่งให้หมดเลย”
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.