"ถ้าเธอจะพูดแบบครั้งที่แล้วก็เงียบไปซะน้ำฟ้า" พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง คราวที่แล้วเขาผิดที่ไม่ยอมแสดงออกความรู้สึกจริงๆ ออกไป ทว่ายังไงมันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่ "..." น้ำฟ้าชะงักเงียบ เธอเม้มปากเข้าหากันเพราะสิ่งที่กำลังจะเอ่ยเป็นไปตามที่ชายหนุ่มพูดดักไว้ "แค่นี้มันยังไม่ชัดเจนพออีกหรือไง?..." "ฟ้าไม่รู้ค่ะ ถ้าพี่ไม่พูดฟ้าก็ไม่รู้" น้ำฟ้าสั่นหัวตอบ "ซื่อบื้อเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน" ร่างสูงเอ่ยด้วยความเอือม เขาเป็นคนปากแข็งไม่ชอบพูดออกไปตรงๆ ทว่าคนตรงหน้าก็ดูเหมือนจะซื้อจนเขาจำเป็นต้องพูดออกมาตามตรง "ฟ้าเป็นอะไรสำหรับพี่เหรอ หรือว่าพี่เห็นว่าฟ้าเป็นแค่เลขาบนเตียง"
"พออะไร...ฉันยังไม่ได้เริ่มเลย" มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากตอบกลับคนตัวเล็กก่อนที่จะ... สวบ~ "กรี๊ดดดด อุ๊บ..." เธอกรีดร้องออกมาเสียงดังเมื่อแก่นกายใหญ่ยักษ์กระแทกเข้ามาภายในร่างเล็กทีเดียวจนมิดลำก่อนที่เสียงหวานจะถูกกลืนกินในลำคอเมื่อปากหนาเลื่อนเข้ามาบดขยี้ปิดปากคนเธอไว้ "ฮึกก เอ็บ (เจ็บ)" ปากเล็กพยายามบอกกับคนตัวโตที่ถึงแม้จะเจ็บไม่เท่าครั้งแรกแต่แรงตอกอัดที่เขาถาโถมกระแทกเข้ามาโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัวบวกกับขนาดแท่งร้อนที่ใหญ่ทำเอาเธอรู้สึกเจ็บและจุกในเวลาเดียวกัน "ทำไมถึงชอบทำให้ฉันโมโห เตือนอะไรไม่เคยฟัง ชอบนักเหรอให้ฉันใช้ความรุนแรง..." ปากหนาผละออกจากริมฝีปากเล็กพร้อมกับเลิกคิ้วถามใบหน้าเรียวสวยที่เหย่เกไปด้วยความเจ็บปวด "ฮือออ พี่ใจร้าย ฮึกก ฉันเกลียดพี่..." ใบหน้าเรียวสวยส่ายหน้าไปมาพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายไม่ปกปิด "ไม่เข็ดใช่ไหม!?..." ปึก! "อึก!" คนตัวโตกระทุ้งสาดใส่คนใต้ร่างด้วยความรุนแรงทำให้เสียงเล็กเผลอร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาสีใสที่ไหลออกมาเต็มแก้มนวลสองข้าง "บอกให้เลิกพูดคำนั้นไง!" "ฮือออ เจ็บ" "เธอต้องห้ามเกลียดฉัน เธอต้องรักฉัน" "มะ ไม่ ฉันไม่มีทางรักคนเลวแบบพี่..."
สงคราม มาเฟียหนุ่มผู้เอาแต่ใจ ที่ไม่เคยมีใครปฏิเสธความต้องการของเขา จนได้มาเจอกับเธอ…หญิงสาวที่ไม่เคยยอมใคร แก้วตา แม่ค้าผลไม้สู้ชีวิต ผู้ไม่เคยได้รับความโชคดีเหมือนคนอื่น เธอจึงต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดไปวัน ๆ จนได้มาเจอกับเขา…มาเฟียร้ายผู้ที่จะมาเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล "ถ้ากำลังทำให้ฉันสนใจบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่สำเร็จ" "เป็นบ้าเหรอ?" "ต้องการเท่าไหร่?" "อะไร?" "แลกกับร่างกายของเธอ ต้องใช้เงินเท่าไหร่?" "เก็บเงินไว้ทำศพของพี่ตอนตายเถอะ" ไอมาเฟียโรคจิต
'แต่ที่ฉันต้องการคือตัวเธอ' ประโยคเดิมยังคงวนเวียนในหัวของฉันราวกับหนังที่ฉายซ้ำซ้อน ขณะที่สายตาฉันยังคงจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา พร้อมกับใบหน้าที่อึ้งทึ่งอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน นายนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน พึ่งรู้จักกันไม่ถึงวัน หาเรื่องคัดค้านขัดขาฉันสารพัด แต่กลับบอกว่าอยากได้ตัวฉัน เหอะ… "คุณเป็นโรคจิตหรือไง!?" ฉันพูดออกไปเมื่อคิดไตร่ตรองอย่างดีแล้วว่าคนปกติไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้ได้ เขาต้องมีอาการอะไรทางสมองแน่ๆ ถึงได้พูดประโยคที่น่าขนลุกหน้าตายแบบนี้ "…" แต่เขากลับเงียบ ตวัดสายตาคมกริบมองฉันราวกับกำลังบอกว่าเขาจริงจังในทุกสิ่งที่พูดออกมา "ถึงฉันจะสวยจนนายอยากได้ตัว แต่ฉันก็ไม่ง่ายที่จะไปกับนายหรอก ไอโรคจิต…ออกไปจากห้องฉันเลยนะ" ฉันบอกพร้อมกับผายมือเชิญเขาออกไปจากห้องไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวัน แต่มันก็เหมือนทุกครั้ง เขาเลือกที่จะนั่งลงเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วช้อนสายตามองฉันเหมือนเดิม "ได้…ถ้านายไม่ออก งั้นฉันออกเอง" ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป ไม่มีอะไรสะทกสะท้านเลยสักนิด งั้นคงต้องเป็นฉันเองสินะที่ควรถอยออกห่างคนโรคจิตไม่น่าไว้ใจแบบนี้ เขาป่วยเกินไปกว่าที่ฉันจะต้องสนทนาด้วย คิดได้แล้วก็รีบหยิบกระเป๋าชาแนลราคาแพงหูฉี่ติดมือ ก่อนที่จะมองเขาแวบสุดท้าย แล้วหันหลังเดินกลับไป "แน่ใจเหรอว่าจะเดินออกไป…" "…ดีเจอลิซ" กึก!!!!! รองเท้าส้นสูงสี่นิ้วชะงักเท้าเสียงดัง 'กึก' กับประโยคที่คนตัวสูงพูดออกมา ฉันเบิกตากว้างอ้าปากค้างยืนนิ่งกลางอากาศ เมื่อได้สติก็ค่อยๆ หันมาทางคุณฟินซ์ช้าๆ จนเห็นว่าตอนนี้เขากำลังตวัดสายตามองแล้วเหยียดยิ้มมุมปากให้ฉันอยู่ "ดะ ดีเจอลิซ…อะไรของคุณ ฉันไม่รู้จัก" ฉันเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงติดขัด "หึ" จนเขาเหยียดยิ้มมุมปากมองฉัน ให้ตายเถอะ…นายนี่จะพูดน้อยไปถึงไหน ฉันชักจะรำคาญกับท่าทีลีลาท่ามากของเขาแล้ว "ฉันถามว่าคุณเรียกใครว่าดีเจอลิซ" ฉันกัดฟันกรอดถามด้วยน้ำเสียงที่เล็ดรอดไรฟันอย่างคนที่กำลังกักเก็บความอดทน รีบเก็บอาการพิรุธทั้งหมดที่เผลอลืมตัวในตอนแรก ค่อยๆ ปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วเอ่ยถาม เฉไฉทำเป็นไม่รู้เรื่องราวในสิ่งที่เขากำลังพูดถึง "เรียกเธอ…ดีเจอลิซ" "…" เงียบ "ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอ?" "คุณเป็นใคร!?" ฉันยืนตั้งสตินิ่งแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 'ดีเจอลิซ' คือนามแฝงที่เป็นโลกอีกใบหนึ่งของฉัน เป็นชื่อที่มีคนรู้จักอยู่ไม่กี่คน และคนพวกนั้นก็คือคนที่ฉันรู้จักเท่านั้น เว้นอยู่แค่คนเดียว...
"ฉันรักนาย..." เรียวปากบางพูดเน้นประโยคอย่างตั้งใจ แววตาคู่สวยมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของคนตรงหน้า เธอพยายามจะสื่อให้เขาเห็นว่าเธอตั้งใจพูดออกมาทุกอย่าง ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ความกล้าของเธอมีมากขึ้นทว่ามันไม่ได้ทำให้เธอเสียสติจนถึงขนาดพูดพล่อยๆ ออกมาทั้งที่ไม่รู้ตัว "..." ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบงันราวกับมีคนกดปิดสวิตซ์ เอวาเริ่มใจเสียเมื่อคนตรงหน้ากลับไม่พูดอะไร "แล้วนายล่ะ...นายคิดกับฉันมากเกินกว่าเพื่อนหรือเปล่า?..." ความอยากชัดเจนมีมากจนทำให้เธอถามขึ้นอีกครั้ง ยังไงก็พูดความในใจออกไปแล้ว ถ้าจะเสียใจก็ควรเสียใจให้สุดในครั้งเดียว "..." ชายหนุ่มชะงักนิ่งมองหน้าเธอชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะหลบสายตาเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ก้อนเนื้อด้านซ้ายบีบรัดแน่นรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีใครเอามันมาบีบเล่น ความเงียบและการแสดงออกของคนใจร้ายตรงหน้าทำให้เอวารู้สึกผิดหวังเริ่มน้ำตาคลอ "ฉันกำลังจะถูกนายปฏิเสธใช่ไหม?..." "..." "...มันอาจจะฟังดูตลกถ้าฉันจะบอกว่าฉันเคยคิดว่านายก็รักฉันเหมือนกัน การกระทำและการแสดงออกของนายทำให้ฉันคิดว่าฉันดูพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ แต่เปล่าเลย วันนี้ฉันรู้แล้วว่าทั้งหมดฉันแค่คิดไปเอง...นายไม่เคยรักฉันเกินกว่าเพื่อนเลย" "หึ น่าสมเพชสิ้นดีเลยเอวา..." โรมานซ์มาเฟีย
"ขวัญไม่เคยต้องการอะไรจากพี่ พี่รู้ไหมว่าขวัญต้องใช้ความอดทนแค่ไหน ที่ต้องอยู่กับคนบ้าอำนาจแบบพี่" หญิงสาวพูดออกไปด้วยความโกรธและน้อยใจที่มีอยู่เต็มอก น้ำตาใสๆ เริ่มรินไหลออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ภาพที่ชายหนุ่มทำเหมือนไม่เคยรู้จักเธอต่อหน้าคนอื่น ภาพชายหนุ่มกำลังกกกอดคนอื่นที่ไม่ใช่เธอค่อยๆ แล่นเข้ามาในหัวทีละช็อตจนมันปวดหนึบที่อกข้างซ้ายบีบรัดจนเธอต้องเปล่งความอัดอั้นนั้นออกมา "ฮึก..ขวัญก็มีความรู้สึก ขวัญมีชีวิตของขวัญ ขอร้อง ปล่อยขวัญสักที พี่เลิกเอาคลิปบ้านั้นมาขู่ขวัญสักที" เสียงสะอื้นปล่อยออกมาพร้อมกับความในใจเอ่ยกับคนตรงหน้าด้วยสีหน้าอ้อนวอน "..." มาเฟียหนุ่มนิ่งเงียบเบือนหน้าไปอีกทางพยายามเก็บไฟร้อนที่สุ่มอยู่ในอกรอเวลาที่จะระเบิดออกมาในขณะที่หญิงสาวร้องไห้น้ำตาเต็มพวงแก้ม "ขวัญแค่อยากมีชีวิตเหมือนคนอื่นทั่วไป อยากมีคนที่เขาให้สถานะขวัญมากกว่าคู่นอนคนหนึ่ง" "หึ ทำไม? เธอเจอคนนั้นแล้วหรือไง มันรู้ไหมล่ะว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับฉัน" ชายหนุ่มหันมาพูดคำนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบแสยะยิ้มออกมากับประโยคหลังที่พูดออกมาด้วยความโกรธเคืองและสติที่ขาดผึ่งในที่สุด "..." หญิงสาวเงยหน้าไปมองใบหน้าคมด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก "ได้กับมันกี่ครั้งแล้วล่ะ เด็ดสู้ฉันได้หรือเปล่า" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเงียบไปเขาจึงเป็นคนที่พูดต่อแสยะยิ้มมองคนตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง "... ค่ะ เด็ดมาก เด็ดมากกว่าพี่หลายร้อยเท่า" หญิงสาวชะงักไปชั่วครู่ ปาดน้ำตาตัวเองลวกๆ ลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับชายหนุ่มอย่างไม่นึกกลัว คำพูดดูถูกของเขายิ่งทำให้ก้อนเนื้อข้างซ้ายบีบรัดจนแทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ แต่มันไม่ควรแสดงออกมาเวลานี้ ร่างบางเอ่ยตอบออกไปด้วยแววตาแข็งกร้าวแสยะยิ้มออกมาตามเขาซ่อนความรู้สึกเจ็บนั้นเอาไว้ "งั้นเหรอ!?" ชายหนุ่มมองใบหน้าเรียวนิ่งแววตาดุดันความขุ่นเคืองที่อัดอั้นมันไว้กลับพังลงเมื่อหญิงสาวร่างบางพูดประโยคนั้นออกมา "พี่จะทำอะไร" เธอถามออกไปเมื่อร่างหนาค่อยๆ ลุกเดินออกมาหาเธอ "ทำไม? กลัวเหรอ" เขาแสยะยิ้มมุมปากแล้วค่อยๆ ก้าวเดินไปหาหญิงสาวจนอีกฝ่ายเดินถอยหลังไปจนติดกับกำแพงหนาของห้อง "ออกไปพี่วิน..." มือหนาสองข้างยกมากันร่างบางพลางก้มต่ำไปมองคนตัวเล็กที่พยายามดันแผงอกหนา แต่แรงบอบบางของเธอไม่ได้ทำให้คนตัวโตขยับเขยื้อนตัวสักนิด "หึ! ฉันบอกเธอแล้วไงว่าถ้าฉันไม่เบื่อเธอก็ไปไหนไม่ได้" จบประโยคนั้นชายหนุ่มตรงหน้าใช้มือข้างขวาบีบแก้มบางให้เงยหน้าไปหาเขาแล้วกดจูบประทับริมฝีปากบางทันที มือเล็กสองข้างได้แต่ดันแผงอกหนาโดยที่ริมฝีปากไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเขาสักนิด "อ่อย อันเอ็บ (ปล่อย ขวัญเจ็บ)" ปากเล็กได้แต่พูดออกมาในลำคอเพราะมือใหญ่ยังคงบีบปากและกดจูบเธอไว้อย่างนั้น น้ำใสๆ จากดวงตาเริ่มไหลอีกครั้งเมื่อความเจ็บที่พวงแก้มเริ่มเพิ่มมากขึ้น "อื้อออ...อ่อย (ปล่อย)" เสียงสะอื้นที่พยายามปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ลิ้นร้อนของเขาได้เข้ามาในโพรงปากของเธอแต่เขากลับใช้จังหวะที่หญิงสาวนั้นพยายามพูดห้ามเขาสอดลิ้นเข้ามาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว เขาปล่อยมือออกจากแก้มขาวนวลที่ตอนนี้เริ่มแดงตามแรงบีบของเขาแต่ยังคงเชยชิมความหวานในโพรงปากของเธอจนคนตัวเล็กเริ่มหายใจไม่ทัน คนตัวสูงที่เริ่มรู้สึกว่ามือเล็กของเธอที่กำลังทุบแผงอกเริ่มอ่อนแรงลงจึงได้สติแล้วปล่อยปากบางให้เป็นอิสระ "มันพึ่งเริ่มต้นเองสาวน้อย" ใบหน้าร้ายผุดรอยยิ้มแห่งความน่ากลัวลูบไปที่แก้มแดงช้ำพลางใช้นิ้วปาดน้ำตาให้เธอ คนตัวเล็กได้แต่สูดออกซิเจนเข้าในปอดด้วยแววตาแห่งความผิดหวังฉายบนใบหน้าพยายามดิ้นให้หลุดออกจากการเกาะกุม "ปล่อยฉัน" หญิงสาวที่สะบัดแขนออกจากมือหนาที่กำลังฉุดกระชากเธอ แน่นอนว่าแรงคนตัวเล็กแบบเธอไม่ได้ทำให้เธอหลุดออกตามที่หวังไว้ ตุบบ! ร่างเล็กถูกกระชากแล้วปล่อยลงบนเตียงนอนกว้างของเธอโดยฝีมือของชายหนุ่มใจร้ายที่กำลังใช้สายตาที่ยากจะคาดเดามองใบหน้าเรียวเรียบนิ่ง "พี่มันเลว" เสียงเล็กเอ่ยออกไปแล้วจ้องใบหน้าคมอย่างไม่ละสายตา "หึ" เขาหัวเราะในลำคอแล้วค่อยๆ คลานเข่าไปหาเธอ ร่างเล็กเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่เคลื่อนไหวมาหาเธอจึงใช้จังหวะนั้นลงจากเตียงหมายจะหนีออกไป หมับ! ไม่ทันที่เท้าเล็กจะแตะพื้นมือหนาเอื้อมมาดึงมือเธออย่างรู้ทันจนคนตัวเล็กเสียหลักกลับมานอนในท่าเดิมโดยที่มีร่างหนาคร่อมตัวเธอไว้ "...เธอไม่มีวันหนีฉันพ้น!" เสียงทุ้มเอ่ยประโยคนั้นจบแล้วก้มลงไปซุกไซร้ ขบเม้มลำคอขาวเนียนของเธอทันที
"ไหนๆ ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้ว มึงกับกูวัดกันสักหน่อยไหม?" มันกระตุกยิ้มใส่ผมแล้วมองไปที่สนาม แข่งซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันก็แพ้ผมมาตลอด ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจจากไหนว่าครั้งนี้จะชนะผมได้ "ทำไมกูต้องลง?" "มึงจะได้รู้ว่าที่ผ่านมากูไม่ได้กระจอก แต่กูยอมเพราะเห็นว่ามึงเป็นเพื่อน" "แล้วกูจะได้อะไรจากการแข่งครั้งนี้" "ถ้ามึงชนะกูจะเลิกยุ่งกับวาริน" "หึ ถ้าแค่นั้นกูไม่จำเป็นต้องลงแข่ง ยังไงกูก็ทำให้มึงเลิกกับน้องกูได้" ผมรู้ว่าตอนนี้มันกำลังแอบคบกับวารินอยู่ แต่ที่ผมเลือกจะไม่ทำอะไรเพราะเห็นว่าวารินกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ง่ายมากที่ผมจะทำให้สองคนเลิกขาดได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดิมพันอะไรพวกนี้เลย "แล้วมึงต้องการอะไร?" "กูจะยอมลงแข่ง ถ้าของเดิมพันคือน้องสาวมึง" "…" พอผมพูดจบมันก็เงียบไปทันที "ทำไม…หรือที่ผ่านมามึงแพ้เพราะมึงกระจอกจริงๆ" ผมตวัดสายตามองมันอย่างท้าทาย "เปล่า…กูแค่ไม่เข้าใจ ถ้ามึงต้องการใช้นิชาเพื่อแก้แค้นกู แล้วมึงจะเดิมพันเพื่อให้ได้น้องกูมาอีกทำไม ในเมื่อมึงได้แก้แค้นกูแล้ว ได้ทุกอย่างแล้ว ทั้งหมดเป็นไปตามเกมของมึงแล้ว มึงทำเพื่ออะไร หรือมึงรักนิชา?" คำถามของมันทำให้ผมสะอึกชั่วครู่ ก่อนที่จะรีบดึงสติตัวเองแล้วเอ่ยตอบไปอย่างมั่นใจ "เธอหมดประโยชน์สำหรับกูแล้ว…กูไม่จำเป็นต้องสนใจเธออีก" "…" มันเงียบแล้วรอฟังต่อ "ถึงกูจะแพ้หรือชนะกูก็ไม่อยากได้เธอแล้ว แต่ที่กูเดิมพันเพราะกูอยากให้มึงรู้ว่ายังไงกูก็มั่นใจว่ากูจะชนะมึง แค่เห็นว่ามึงต้องเสียน้องสาวให้กูไปทำอะไรกับเธอก็ได้ กูก็โคตรสะใจแล้วว่ะ" "นิชาได้ยินแล้วใช่ไหม?"
"พาย…ช่วยคุยกับพี่หน่อยได้ไหม?" ผมต้องใช้ไม้อ่อนกับเธอ เพราะตอนนี้ดูท่าเธอจะโมโหผมขึ้นมาแล้ว แต่หน้าเธอก็ยังเยือกเย็นเหมือนเดิม "แค่ที่คุณมาโวยวายหน้าห้องฉันเมื่อคืนมันก็มากพอแล้วค่ะ" "พะพาย…" "ระหว่างเรามันจบไปเมื่อห้าปีที่แล้วแล้วค่ะ จบตั้งแต่วันที่คุณไม่แม้แต่จะสนใจฉันเลย ขอร้องเถอะค่ะ ช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักที…" เหมือนก้อนเนื้อข้างซ้ายถูกบีบให้แหลกคามือ เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าผมเลย น้ำเสียงที่เย็นชาและใบหน้าที่เมินเฉยทำเอาหัวใจผมกระตุกวูบไปในทันที "พี่ขอโทษ…" "ออกไปจากห้องฉัน" "…" "ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ"
นิยายรักวัยใสต่างวัยระหว่างเด็กมัธยมปลายอย่างนาราที่ดันไปตกหลุมรักท่านประธานบริษัทจอมขรึมอย่างเรย์ที่ดันตรงสเปคเธอไปเสียทุกอย่าง ราวกับผู้ชายในจินตนาการที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต นาราจึงเลือกที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อตามล่าให้ได้หัวใจของนายมาดนิ่งที่เย็นชามาเป็นของเธอแค่คนเดียว ความสดใส น่ารัก และความเป็นธรรมชาติของเธอไม่เคยมีใครที่จะสามารถต้านทานมันได้ แต่เหมือนทุกอย่างคงจะใช้ไม่ได้กับเรย์ เขาไม่มีทีท่าเหมือนจะสนใจเธอเลยสักนิด ภายใต้ใบหน้าอันเรียบนิ่งทำให้ไม่มีใครรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเลยสักคน แล้วบทสรุปของทั้งสองคนจะเป็นไปทางไหนกัน...?
"แลกกับร่างกายของฉัน คุณจะช่วยทำให้พวกมันพังพินาศได้หรือเปล่า" ดีแลน เขาคือประธานสุดร้าย พ่วงด้วยตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียตระกูลเดรโก เย็นชามาดเข้ม ไม่เคยรักใคร แต่กลับมีเลขาเป็นเมียในสมรสแทน ปลายฝน เธอคือเลขาสาวใสซื่อ ที่แอบมีมุมมืดที่ใครต่างคาดไม่ถึง สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่รักแม้กระทั่งการแลกอิสระที่เหลืออีกครึ่งชีวิตของตัวเอง
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.